นพ. จิรวัฒน์ เชี่ยวเฉลิมศรี
สาขาโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันทางคลินิก สาขาวิชาอายุรกรรม
ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
สรุปเนื้อหาการประชุมวิชาการประจำปี 2565 สมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย ในวันที่ 18 มีนาคม 2565
การรักษาด้วยวิธีวัคซีนภูมิแพ้ หรืออิมมูโนเทอราพีต่อสารก่อภูมิแพ้ที่ผู้ป่วยภูมิแพ้โพรงจมูก (Allergic Rhinitis) และโรคหืด (Asthma) แพ้ เป็นวิธีการรักษาที่มีมานานกว่า 110 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1910 และเป็นการรักษาเดียวที่เปลี่ยนแปลงการดำเนินโรค เนื่องจากเป็นการรักษาที่ต้นเหตุของโรคที่ผู้ป่วยแพ้สารก่อภูมิแพ้ที่ทำให้เกิดโรคดังกล่าว โดยนิยามล่าสุดที่สมาคมโรคภูมิแพ้ยุโรปได้ให้ไว้คือ “การที่ให้สารก่อภูมิแพ้ที่ผู้ป่วยแพ้ซ้ำ ๆ ในช่วงระยะความห่างที่เหมาะสม ที่ส่งผลให้มีการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันเพื่อลดอาการ ลดการใช้ยาและป้องกันการเกิดการแพ้ชนิดใหม่ ๆ ในผู้ป่วยภูมิแพ้โพรงจมูก และโรคหืด”
กลไกที่อธิบายการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อการรักษามีดังนี้ (ตามรูปที่ 1 และ 2)
- ส่งผลต่อเซลล์ mast cell และ Basophil ในการลดการหลั่งสารแพ้
- ลดการทำงานของ FcεRI ในการกระตุ้นการหลั่งสารแพ้
- เพิ่มการสร้างของ Regulatory T cell , Regulatory B cell ในการหลั่งสาร Interleukin-10, TGF-beta ในการไปลดการทำงานของ T helper 2 , dendritic cell รวมถึงกระตุ้นให้มีการสร้าง Specific IgG4 และลดการสร้าง specific IgE
- ปัจจุบันยังพบว่านอกจากมีการสร้าง Regulatory T และ B cell ยังมีการสร้าง Regulatory dendritic cell, NK cell, Innate lymphoid cell ในการไปลดการทำงานกลุ่มการอักเสบชนิดที่ 2 ( type 2)
.
รูปที่ 1 Globinska A, Boonpiyathad T, Satitsuksanoa P, Kleuskens M, van de Veen W, So- kolowska M, et al. Mechanisms of allergen-specific immunotherapy: diverse mechanisms of immune tolerance to allergens. Ann Allergy Asthma Immunol 2018;121:306-12.
.
รูปที่ 2 From T. Boonpiyathad, M. Lao-Araya, C. Chiewchalermsri, et al. Allergic Rhinitis: What Do We Know About Allergen-Specific Immunotherapy?. Frontiers in Allergy. 28 Oct 2021
.
ปัจจุบันวิธีการรักษานี้ไม่ใช่มีเฉพาะแบบฉีดเข้าใต้ผิวหนัง แต่ยังมีวิธีอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น วิธีการอมใต้ลิ้น วิธีการฉีดเข้าต่อน้ำเหลืองโดยตรง วิธีแปะใต้ชั้นผิวหนัง หรือทางการพ่นเข้าโพรงจมูก แต่ที่มีหลักฐานทางการแพทย์ชัดเจน และระบุในแนวเวชปฏิบัติต่าง ๆ ในผู้ป่วยภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบและโรคหอบหืดในปัจจุบันมีวิธีฉีดเข้าใต้ผิวหนัง และวิธีอมใต้ลิ้น โดยข้อดีของวิธีการอมใต้ลิ้นเหนือวิธีฉีดเข้าใต้ผิวหนังคือ ผลข้างเคียงน้อยกว่าและสะดวกกว่าเพราะไม่ต้องมาฉีดที่โรงพยาบาล แต่ข้อเสียอาจพบว่าผู้ป่วยลืมอมบ่อยกว่าลืมมาฉีดรักษาที่โรงพยาบาลและยังมีปริมาณสารแพ้ที่ใช้รักษาได้จำกัดกว่าวิธีฉีดเข้าใต้ผิวหนัง
ประสิทธิภาพในการรักษาพบว่าในผู้ป่วยโรคหืดชนิด Allergic Asthma สามารถลดอาการของผู้ป่วย และลดการใช้ยาลงได้ สามารถเพิ่มคุณภาพชีวิต ช่วยยืดระยะเวลาในการเกิดการกำเริบของโรคหืดในผู้ป่วยที่ลดการใช้ยาพ่นสเตียรอยด์ออกไปได้ มีการเพิ่มสมรรถภาพปอดในส่วนของ FEF 25-75% และลดภาวะหลอดลมไว (Bronchial hyper-reactivity) ได้ รวมถึงสามารถป้องกันการเกิดโรคหืด (Asthma) ในผู้ป่วยภูมิแพ้โพรงจมูก (Allergic Rhinitis) ที่รักษาด้วยวิธีอิมมูโนเทอราพี
ปัจจุบันมีแนวเวชปฏิบัติระดับโลก และระดับประเทศต่าง ๆ มากมาย ที่ได้บรรจุการรักษาชนิดนี้เข้าไป เช่น GINA guideline ใน EAACI guideline รวมถึงแนวทางการวินิจฉัยและรักษาโรคหืดในประเทศไทย สำหรับผู้ใหญ่ 2565 และแนะนำทำในผู้ป่วยโรคหืดชนิด Allergic Asthma ที่คุมอาการของโรคได้ก่อน โดย FEV1 ควรมีค่าร้อยละ 70 ขึ้นไปก่อนรักษา ทั้งนี้ควรใช้ยาสูดพ่นตามแนวเวชปฏิบัติร่วมไปด้วยเสมอ
จากประสบการณ์การรักษาผู้ป่วยจริงพบว่าผู้ป่วยสามารถคุมอาการได้ ไม่มีอาการกำเริบ สามารถลดยาสูดพ่นต่าง ๆ ลงได้ และมีความประทับใจจากการดูแลรักษาผู้ป่วยด้วยวิธีอิมมูโนเทอราพีมาก และหวังว่าการรักษานี้จะเป็นทางเลือกที่ดีให้กับผู้ป่วยโรคหืด Allergic Asthma ที่พวกเราช่วยกันดูแลครับ