CIMjournal
banner ภูมิแพ้ผู้ใหญ่ 2

Sleep disorder co-existing asthma and AR


รศ. พญ. นฤชา จิรกาลวสาน
สาขาวิชาอายุรศาสตร์โรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤต
ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ศูนย์นิทราเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

สรุปเนื้อหาจากงานประชุมวิชาการประจำปี 2564 จัดโดย สมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย วันที่ 11 มีนาคม 2564

 

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (obstructive sleep apnea หรือ OSA) คือ ภาวะที่มีการอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนต้นเป็นพัก ๆ ทำให้มีการตกลงของออกซิเจน หรือทำให้มีการตื่นตัวระหว่างคืน1 ภาวะนี้มีความสัมพันธ์กับโรคหืด โดยพบความสัมพันธ์เป็นลักษณะ bidirectional (รูปที่ 1, รูปที่ 2)2 มีข้อมูลวิจัย พบว่า อุบัติการณ์ของภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นเพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มผู้ป่วยโรคหืดที่ควบคุมได้ยาก (difficult to treat asthma)

รูปที่ 1 ความสัมพันธ์แบบ bidirectional ของโรคหืด และภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (direct effect) ดัดแปลงจาก Abdul Razak MR, Chirakalwasan N. Obstructive sleep apnea and asthma. Asian Pac J Allergy Immunol. 2016; 34(4): 265 – 71.

 

รูปที่ 2 ความสัมพันธ์แบบ bidirectional ของโรคหืด และภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (indirect effect) ดัดแปลงจาก Abdul Razak MR, Chirakalwasan N. Obstructive sleep apnea and asthma. Asian Pac J Allergy Immunol. 2016; 34(4): 265 – 71.2.


โดยอาจพบได้ถึง 74.5%3 โดยทั่วไปการรักษาหลักของภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นในผู้ใหญ่ คือ การใช้เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก (continuous positive airway pressure หรือ CPAP) มีข้อมูลวิจัยพบว่า การใช้เครื่อง CPAP สามารถลดจำนวนวันที่มีอาการโรคหืดกำเริบ ลดการที่จะมีโรคหืดกำเริบตอนกลางคืน ลดอาการโรคหืดตอนกลางคืน เพิ่มค่า peak expiratory flow rate และค่า FEV1 เพิ่มคุณภาพชีวิต และลดโอกาสการเกิดโรคหืดที่ควบคุมไม่ได้ 2 ส่วนในเด็กการรักษาหลักของภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น คือ การผ่าตัดต่อมทอนซิลและต่อมอะดินอยด์ โดยข้อมูลวิจัยพบว่า สามารถลดการเกิดโรคหืดกำเริบ ลดการเกิดโรคหืดกำเริบที่รุนแรง ลดการที่จะต้องไปห้องฉุกเฉินจากโรคหืดกำเริบ และลดการนอนโรงพยาบาลจากโรคหืดกำเริบ2

สำหรับภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น และโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (allergic rhinitis) นั้น พบว่า ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น และโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้จมูกนั้นมีความสัมพันธ์ต่อกันเป็นลักษณะ bidirectional เช่นเดียวกัน (รูปที่ 3) มีข้อมูลพบว่า การใช้ยาพ่นจมูกชนิดสเตียรอยด์สามารถช่วยทำให้ค่าดัชนีการหยุดหายใจและหายใจแผ่ว (apnea hypopnea index หรือ AHI) ลดลง รวมถึงระดับออกซิเจนและอาการง่วงนอนที่ดีขึ้น4

รูปที่ 3 ความสัมพันธ์แบบ bidirectional ของโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้และภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น ดัดแปลงจาก Chirakalwasan N, Ruxrungtham K. Linkage of allergic rhinitis and obstructive sleep apnea. Asian Pac J Allergy Immunol 2014; 32: 276 – 86


แต่อย่างไรก็ตาม มีหลายงานวิจัยที่ไม่พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน5 โดยมีงานวิจัยในประเทศไทยที่ตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา ในผู้ป่วยที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นระดับปานกลางถึงรุนแรงที่มีโรคจมูกอักเสบเรื้อรัง โดยงานวิจัยนี้พบว่า เมื่อใช้ยาพ่นจมูกสเตียรอยด์เป็นเวลาหนึ่งเดือนสามารถลดค่า AHI ได้ แต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ แต่พบว่าสามารถลดค่าดัชนีการหายใจถูกรบกวน (respiratory disturbance index) ในท่านอนตะแคงได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ รวมทั้งพบว่า สามารถเพิ่มคุณภาพการนอนหลับได้6 ในทางตรงข้ามมีข้อมูลวิจัยที่พบว่า การรักษาโดยใช้ CPAP สามารถที่จะทำให้คุณภาพการนอนหลับ และอาการดีขึ้นในผู้ป่วยภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นที่มีโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้7

 

เอกสารอ้างอิง

  1. International Classification of Sleep Disorders (ICSD)-3 2014.
  2. Abdul Razak MR, Chirakalwasan N. Obstructive sleep apnea and asthma. Asian Pac J Allergy Immunol. 2016; 34(4): 265 – 71.
  3. Guven SF, et al. The prevalence of obstructive sleep apnea in patients with difficult-to-treat asthma. Asian Pac J Allergy Immunol. 2014; 32(2): 153 – 9.
  4. Acar M, et al. The effects of mometasone furoate and desloratadine in obstructive sleep apnea syndrome patients with allergic rhinitis. Am J Rhinol Allergy. 2013; 27(4): e113 – 6.
  5. Chirakalwasan N, Ruxrungtham K. Linkage of allergic rhinitis and obstructive sleep apnea. Asian Pac J Allergy Immunol 2014; 32: 276 – 86
  6. Phoophiboon V, Ruxrungtham K, Muntham D, Chirakalwasan N. A randomized, double-blind, placebo-controlled trial on the effect of intranasal corticosteroid as a treatment for moderate to severe obstructive sleep apnea with coexisting chronic rhinitis. Asian Pac J Allergy Immunol. 2020 Aug 23. doi : 10.12932/AP-070320-0785.
  7. Cisternas A, Aguilar F, Montserrat J, et al. Effects of CPAP in patients with obstructive apnoea: is the presence of allergic rhinitis relevant? Sleep Breath. 2017; 21(4): 893 – 900.

 

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก