CIMjournal

เรื่องที่แพทย์สาขาภูมิแพ้และอิมมูโนฯ …ควรติดตาม เดือน ก.ย. – ธ.ค. 2568

.
พญ.อรพรรณ โพชนุกูล

ศ. ดร. พญ. อรพรรณ โพชนุกูล
ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านโรคภูมิแพ้ โรคหืด และโรคระบบหายใจ
โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

 

แนวทางการรักษาโรคภูมิแพ้อาหารชนิด IgE-mediated  (update EAACI 2025)

โรคภูมิแพ้อาหารชนิด IgE-mediated พบได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ข้อมูลจากบางการศึกษาพบอุบัติการณ์ประมาณร้อยละ 6 – 10 โดยเฉพาะในเด็ก พบได้มากกว่าผู้ใหญ่ ผู้ป่วยกลุ่มนี้นอกจากเสี่ยงต่อภาวะโภชนาการบกพร่องจากการเลี่ยงอาหารแล้ว ยังมีโอกาสเกิด anaphylaxis ที่เป็นภาวะฉุกเฉินทำให้มีอันตรายถึงชีวิตได้ อาการของ IgE-mediated food allergy มักเกิดขึ้นรวดเร็วภายในเวลาเป็นนาที ถึงไม่กี่ชั่วโมง อาการได้แก่ ผื่นคันลมพิษ ตาบวม หน้าบวม อาการคัดจมูก หายใจไม่ออก อาการทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว หรือมีอาการหลายระบบเกิดขึ้นพร้อมกันภายในเวลาอันรวดเร็วที่เรียกว่า anaphylaxis ซึ่งโรคนี้เป็นกลไกที่ระบบภูมิคุ้มกันสร้างแอนติบอดีชนิด IgE ต่อโปรตีนในอาหารบางชนิด เช่น นมวัว ไข่ ถั่ว แป้งสาลี อาหารทะเล เมื่อผู้ป่วยได้รับอาหารดังกล่าวอีกครั้ง IgE ที่จับกับ mast cells และ basophils จะกระตุ้นให้มีการหลั่งสารก่อการอักเสบ เช่น histamine, leukotrienes, prostaglandins ส่งผลให้เกิดอาการแพ้ตั้งแต่ระดับเล็กน้อย (ลมพิษ คัน บวม) จนถึงระดับรุนแรง (anaphylaxis) กลไกนี้แตกต่างจาก non-IgE mediated food allergy ซึ่งอาการมักเกิดช้ากว่าและเกี่ยวข้องกับกลไกภูมิคุ้มกันอื่น ๆ (เช่น T-cell mediated) ดังนั้น แนวทางนี้จึงเน้นเฉพาะ IgE-mediated food allergy ซึ่งมีความเสี่ยงรุนแรงและต้องการการจัดการที่เฉพาะเจาะจง

แนวทางของ EAACI (European Academy of Allergy and Clinical Immunology) ฉบับปี 2025 เป็นการอัพเดตจากเวอร์ชันปี 2014 และ 2018 โดยยึดหลักการของ GRADE methodology ซึ่งมีการประเมิน systematic review และ meta-analysis อย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งความเห็นของผู้เชี่ยวชาญสหสาขาและตัวแทนผู้ป่วย โดยเป้าหมายคือ ไม่เพียงเน้น “การหลีกเลี่ยง” แต่ยังรวมถึงการรักษาแบบปรับเปลี่ยนธรรมชาติของโรค (disease-modifying treatments) เช่น การรักษาด้วยวิธีภูมิคุ้มกันบำบัด (immunotherapy) และชีววัตถุ (biologics)

โดยแนวทางที่สำคัญมีดังนี้

  1. การจัดการด้านโภชนาการ
    • การหลีกเลี่ยงอาหารที่ก่ออาการ ยกเว้นกรณีที่เป็น oral allergy syndrome ที่แพ้ละอองเกสรร่วมกับผลไม้ อาจสามารถรับประทานอาหารในรูปแบบที่ผ่านความร้อน (cooked or process) ได้ และกรณีที่แพ้ไข่ หรือนม บางครั้งการปรุงด้วยความร้อน (baked milk or baked egg) อาจทำให้คนไข้สามารถ tolerated ได้อย่างไร การแปรรูปบางชนิด เช่น roasting nuts หรือ seed อาจเพิ่มความก่อภูมิแพ้ได้
    • แนะนำให้รับประทานอาหารอื่น ๆ ที่ไม่ก่ออาการแพ้อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงอาหารที่ sensitized แต่ไม่ก่ออาการ ไม่ควร delayed solid food
    • ให้คำปรึกษาโภชนาการเฉพาะราย: โดยนักกำหนดอาหาร เน้นการประเมินน้ำหนัก ส่วนสูง พัฒนาการ วิตามิน/แร่ธาตุ โดยเฉพาะในทารกที่แพ้นมวัว สูตรนมที่แนะนำ ได้แก่ extensively hydrolyzed formula หรือ amino acid formula
    • การตีความฉลากอาหารและการใช้ชีวิตประจำวัน: คำแนะนำการอ่านฉลาก “may contain” การกินนอกบ้าน โรงเรียน การเดินทาง และการจัดการ co-factors เช่น การออกกำลังกาย NSAIDs แอลกอฮอล์
  2. การสนับสนุนด้านจิตใจ
    ผู้ป่วยภูมิแพ้อาหารและครอบครัวมักมีภาระทางจิตใจสูง เช่น ความกลัวการแพ้ซ้ำ ความวิตกกังวล และภาวะ social restriction การดูแลควรประกอบด้วยการบำบัดโดยนักจิตวิทยาคลินิก กลุ่มผู้ป่วย ให้คำแนะนำที่เป็นออนไลน์ด้วย และการประเมินอย่างต่อเนื่อง
  3. แผนการรักษาและการป้องกันภาวะฉุกเฉิน
    • ผู้ป่วยควรมีแผนการจัดการรายบุคคล ระบุอาหารที่แพ้ วิธีสังเกตอาการ และขั้นตอนการใช้ยา
    • ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยง anaphylaxis ควรพก adrenaline auto-injector อย่างน้อย 1 – 2 ชุด พร้อมฝึกซ้อมการใช้ทุกครั้งที่มาติดตามอาการ และหมั่นเช็กวันหมดอายุของยาฉุกเฉินด้วย นอกจากนี้ควรสอนคนในครอบครัว ครู และเพื่อนใกล้ชิด โดยเฉพาะวัยรุ่นควรได้รับการสอนให้ self-administer ได้เอง
  4. การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (Allergen Immunotherapy, AIT)
    การทำ oral immunotherapy เป็นวิธีการรักษาภูมิแพ้อาหาร โดยให้ผู้ป่วยทานอาหารที่แพ้ ในปริมาณน้อย ๆ และเพิ่มขนาดอย่างช้า ๆ จนถึงปริมาณคงที่ ซึ่งการทำโดยวิธีนี้ควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญภูมิแพ้ โดยจุดประสงค์คือการทำให้ผู้ป่วย เพิ่มระดับการทนต่ออาหารนั้น (desensitisation) และลดความเสี่ยงการเกิดอาการแพ้รุนแรงจากการสัมผัสโดยบังเอิญ และในบางรายอาจนำไปสู่การหายขาด (remission หรือ sustained unresponsiveness) หลังหยุดการรักษา
    กลไกของ OIT ช่วยให้เกิดการปรับตัวของระบบภูมิคุ้มกัน โดยลดการตอบสนองของ allergen-specific IgE เพิ่มการสร้าง IgG4 (blocking antibody) และเพิ่มการทำงานของ regulatory T cells โดยแนะนำให้ทำในกรณีแพ้อาหารดังต่อไปนี้

    • Peanut allergy: ข้อมูลจาก systematic review การทำ Peanut Oral immunotherapy (POIT) มีผลทำให้เกิด desensitization มากกว่ากลุ่มที่เลี่ยงอาหารอย่างนัยสำคัญ โดยเฉพาะในเด็กและวัยรุ่น (strong recommendation) แต่หลักฐานยังไม่พอในผู้ใหญ่ จึงไม่แนะนำให้ทำในผู้ใหญ่ ส่วนการทำ Epicutaneous (EPIT) และ Sublingual (SLIT) ยังเป็น conditional recommendation
    • Egg & Cow’s milk allergy: การทำ Oral immunotherapy แนะนำในเด็กอายุ 4 ปีขึ้นไป โดยหลักฐานยังมีจำกัด (conditional recommendation)    

ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยวิธี OIT ควรมี adrenaline autoinjector พกติดตัวไว้เสมอ และในช่วงที่เริ่มทำหรือเพิ่มปริมาณอาหาร ควรทำในสถานพยาบาลที่มีที่มีประสบการณ์และพร้อมรับมือภาวะ anaphylaxis 

  1. ชีววัตถุ (Biologics)
    Omalizumab (anti-IgE) โดยใช้เดี่ยวหรือร่วมกับ OIT เพื่อลดความเสี่ยงของอาการแพ้ระหว่างการรักษา แม้หลักฐานยังไม่ครบถ้วน แต่เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถเข้ารับ OIT ได้


บทสรุป

แนวทาง EAACI 2025 เน้นการดูแลทั้งด้านโภชนาการ – จิตใจ – แผนการรักษา – ภูมิคุ้มกันบำบัด – ชีววัตถุ โดยยกระดับจากการดูแลแบบ passive avoidance ไปสู่การรักษาเชิงรุก (active management) เพื่อมุ่งหวังการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติของโรค (disease modification) และเพิ่มโอกาสการเข้าสู่ remission หัวใจสำคัญคือการปรับการรักษาให้เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละราย และการมีส่วนร่วมของครอบครัว-ผู้ป่วยร่วมกับทีมสหสาขาวิชาชีพ

 

เอกสารอ้างอิง
  1. Santos AF, Riggioni C, Agache I, Akdis CA, et al. EAACI guidelines on the management of IgE-mediated food allergy. Allergy. 2025;80:14–36. doi:10.1111/all.16345
  2. Chu DK, Wood RA, French S, et al. Oral immunotherapy for peanut allergy (PACE): a systematic review and meta-analysis of efficacy and safety. Lancet. 2019;393(10187):2222–2232. doi:10.1016/S0140-6736(19)30420-9

 


งานประชุมสาขาภูมิแพ้และอิมมูโนฯ ที่น่าสนใจ ปี 2568

 

ERS Congress 2025

The ERS Congress 2025 | 27 September – 1 October 2025 – Amsterdam, Netherlands

 

APAAACI-2025

APAAACI 2025 Congress  | 9 – 12 October 2025 – Jakarta, Indonesia

 

ACAAI2025

ACAAI 2025  The American College of Allergy, Asthma & Immunology (ACAAI) Annual Scientific Meeting 2025  |  6 – 10 November 2025 – Orlando, Florida, USA

 

 

 

 

PDPA Icon

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก