โรคหอบหืดมีอาการแสดงของโรค ระดับความรุนแรง และการตอบสนองต่อการรักษาแตกต่างกันตามอายุที่เริ่มมีอาการครั้งแรก จากการศึกษาเร็ว ๆ นี้ พบว่าเมื่อแบ่งโรคหอบหืดออกเป็นกลุ่ม ตามอายุที่เริ่มมีอาการครั้งแรก แต่ละกลุ่มจะมีโรคร่วมที่แตกต่างกัน และมีระดับความรุนแรงของโรคเพิ่มมากขึ้นตามอายุที่เริ่มมีอาการครั้งแรก
โรคหอบหืด (Asthma) เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม ทำให้เยื่อบุและผนังหลอดลมตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นจากภายใน และจากสิ่งแวดล้อมมากกว่าปกติ ส่งผลให้หายใจไม่สะดวกและมีเสียงหวีด เหนื่อยหอบ ไอเรื้อรัง แน่นหน้าอก โดยเฉพาะตอนกลางคืนและช่วงเช้ามืด โดยหอบหืดสามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย และทำให้เสียชีวิตได้หากอาการรุนแรง หอบหืดไม่ใช่โรคติดต่อแต่สามารถถ่ายทอดผ่านทางพันธุกรรมได้
Esme J. Baan จาก University Medical Center Rotterdam และทีมนักวิจัย ได้รวบรวมข้อมูลจากฐานข้อมูลโรคหอบหืดของ 5 ประเทศ ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ อิตาลี อังกฤษ สเปน และเดนมาร์ค ตั้งแต่มกราคม 2008 ถึง ธันวาคม 2013 โดยมีจำนวนผู้ป่วยที่เข้าร่วมการศึกษานี้ทั้งหมด 586,436 ราย และได้จัดกลุ่มผู้ป่วยโรคหอบหืดตามอายุที่มีอาการเริ่มแรกออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ Childhood-onset asthma (ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหอบหืดตอนอายุ น้อยกว่า 18 ปี) Adult-onset asthma (ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหอบหืดตั้งแต่อายุ 18 – 40 ปี) และ Late-onset asthma (ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหอบหืดตอนอายุ > 40 ปีขึ้นไป) โดยกลุ่ม Childhood-onset asthma จะพบโรคร่วมในกลุ่มภูมิแพ้มากที่สุด ในขณะกลุ่ม Adult-onset asthma และ Late-onset asthma จะพบโรคอ้วน เบาหวาน หรือติ่งเนื้อในโพรงจมูกเป็นโรคร่วมมากกว่าโรคภูมิแพ้ตามลำดับ เมื่อทำการวิเคราะห์กลุ่มย่อยเฉพาะกลุ่มโรคหอบหืดชนิดรุนแรง จะพบผู้ป่วยทั้งหมด 42,611 (7.2%) ราย โดยจะพบผู้ป่วยในกลุ่ม Late-onset asthma มากที่สุด พบ Adult-onset และ Childhood-onset asthma รองลงมาตามลำดับ นอกจากนี้ยังพบโรคหอบหืดรุนแรงที่ควบคุมไม่ได้ (Uncontrolled asthma) ในกลุ่ม Late-onset asthma มากที่สุดเช่นกัน
ข้อมูลจากการศึกษานี้ จะเป็นประโยชน์สำหรับแพทย์ในการวางแผนการรักษาและการดูแลป้องกันตัวเอง สำหรับผู้ป่วยหอบหืดในแต่ละช่วงวัย อย่างไรก็ตามควรมีการศึกษาถึงสาเหตุทางพยาธิวิทยาของความแตกต่างเหล่านี้ เพื่อเป็นประโยชน์ในการดูแลป้องกันโรคหอบหืดให้ดีขึ้น
ข้อมูลจาก
- https://www.medscape.com/viewarticle/972807
- https://www.jaci-inpractice.org/article/S2213-2198(22)00330-0/fulltext