ทีมนักวิจัยนานาชาติพัฒนาวิธีการตรวจหาอาการบาดเจ็บของเส้นประสาทในโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (multiple sclerosis: MS) ในผู้ใหญ่และยังใช้ได้ผลกับเด็กที่เป็นโรค MS และภาวะทางระบบประสาทอื่น ๆ แม้ว่าจะยังไม่มีอาการก็ตาม โดยเฉพาะโรค MS อาจจำเป็นต้องมีรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อป้องกันอาการใหม่ ๆ และความพิการในที่สุด
วิธีการตรวจเช่นนี้สำหรับผู้ใหญ่ได้รับการพัฒนาเมื่อปีที่แล้ว และได้รับการพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) เพื่อพิจารณาว่าเป็นเครื่องมือทางคลินิกในการเฝ้าติดตามโรคในผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 18 ปี โดยใช้การวัด Neurofilament Light Chain (NfL) ซึ่งพบในเลือดและแสดงถึงการบาดเจ็บของเซลล์ประสาท
การศึกษาใหม่ในเด็ก เผยแพร่เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2023 ใน The Lancet Neurology ได้แสดงถึงช่วงอ้างอิงของ Biomarker ในเด็กที่มีและไม่มีโรคทางระบบประสาท และอาจช่วยเพิ่มเป็นเครื่องมือในการตรวจในเด็ก นพ. Ahmed ผู้สอนทางคลินิกด้านประสาทวิทยาที่ UC San Francisco ผู้วิจัย กล่าวว่า “NfL สามารถบอกแพทย์ได้ว่าควรจัดการ MS อย่างไรหลังจากการวินิจฉัยและเริ่มการรักษาแล้ว” “หากระดับ NfL ในเด็กสูง แม้ว่าพวกเขาจะยังดูดีก็ตาม แสดงว่าโรคนี้ยังไม่คงที่ และควรพิจารณาปรับการรักษาอื่น ๆ” การศึกษานี้ตรวจสอบในเด็กที่มีสุขภาพดี 2,667 คน และผู้ป่วยเด็กโรคทางระบบประสาท 220 คน โดยในจำนวนนี้ 142 คน เป็นโรค MS และคนอื่น ๆ เป็นโรคลมชัก อาการบาดเจ็บที่สมอง การติดเชื้อแบคทีเรียในระบบประสาท และโรค MOGAD ซึ่งเป็นอาการที่คล้ายคลึงกับ MS เด็กที่เป็นโรคทางระบบประสาทมีระดับ NfL สูง ซึ่งบ่งชี้ถึงอาการบาดเจ็บที่เซลล์ประสาทอย่างต่อเนื่อง นักวิจัยวัดค่า NfL ในกลุ่มเด็กที่มีสุขภาพดี 2 กลุ่ม ได้แก่ แอนติบอดีต่อโคโรนาไวรัสในการศึกษา Kids from Bavaria (CoKiBa) และผู้เข้าร่วมที่ไม่มีโรคทางระบบประสาทที่เคยเป็นกลุ่มควบคุมในการศึกษา Pediatric Multiple Sclerosis Network ของสหรัฐอเมริกา นำโดยผู้ร่วมเขียน นพ. Emmanuelle โดยผู้เข้าร่วมที่เป็นโรค MS และภาวะทางระบบประสาทอื่น ๆ คือ ผู้ป่วยที่โครงการ UCSF Pediatric Neuro-Immunology and Multiple Sclerosis Program และที่โรงพยาบาลเด็กของมหาวิทยาลัย Regensburg ในประเทศเยอรมนี ผลการศึกษาพบว่า ระดับ NfL จะลดลงเมื่อเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรงเติบโตขึ้น นักวิจัยพบว่า ในเด็กที่มีสุขภาพดีระดับ NfL จะสูงมากหลังคลอด ซึ่งจะลดลง 6.8% ทุกปีจนกระทั่งอายุ 10 ขวบแล้วจึงเข้าสู่ระดับคงที่ของ NfL โดยเฉลี่ยสำหรับเด็กที่มีสุขภาพดี คือ 4.8 เทียบกับเด็กที่เป็นโรค MS ระดับ NfL อยู่ที่ 21.2 โดยระดับ NfL เพิ่มขึ้นได้ในโรคทางระบบประสาทอื่น ๆ แม้ว่าจะไม่มากเท่ากับใน MS ก็ตาม “การตรวจเลือด NfL นั้นถูกกว่า MRI มาก และอาจทำซ้ำทุก ๆ สองสามเดือนหากจำเป็น ในขณะที่ MRI อาจทำในระยะเวลาที่นานกว่า” นพ. เจนส์ คูห์เล ผู้เขียนร่วมอาวุโสจาก University Hospital และ University of Basel ในสวิตเซอร์แลนด์กล่าว
แม้ว่าการกำเริบของโรค หรือการลุกลามเป็นบรรทัดฐานสำหรับการใช้ยารักษา MS รุ่นเก่า แต่ผู้ป่วยเด็กได้รับการรักษาด้วย disease-modifying drugs (DMTs) ซึ่งนำไปสู่ความมั่นคงในระยะยาว Waubant ผู้อำนวยการศูนย์ UCSF Regional Pediatric Multiple Sclerosis Center กล่าว ดังนั้น “การตรวจระดับ NfL อาจช่วยติดตามการดำเนินของโรคในผู้ป่วยที่ยังไม่ได้รักษาด้วย DMT ที่มีประสิทธิภาพสูง เช่นเดียวกับในการทดลองทางคลินิกในอนาคต ซึ่งสักวันหนึ่งอาจใช้แทน MRI ได้บางส่วนทำให้การศึกษาง่ายขึ้นและลดต้นทุน”
- https://medicalxpress.com/news/2023-07-blood-biomarker-reveals-status-neurological.html
- The Lancet Neurology (2023). DOI: 10.1016/S1474-4422(23)00210-7