CIMjournal
banner เบาหวาน 2

การใช้กัญชาอาจทำให้สมดุลกรดด่างเปลี่ยนไปจนวินิฉัย DKA ลำบากขึ้น


การใช้กัญชาในผู้ป่วย ควรได้รับการพิจารณาเป็นหนึ่งในการวินิจฉัยแยกโรคในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งมีอาการของภาวะน้ำตาลสูงวิกฤติ
ทำให้เลือดเป็นกรด Diabetic Ketoacidosis, DKA แต่กลับมีระดับ pH และไบคาร์บอเนตในเลือดสูงกว่าเกณฑ์การวินิจฉัย DKA ทั่วไป

ภาวะน้ำตาลสูงวิกฤติ DKA เป็นภาวะฉุกเฉินที่อันตรายถึงชีวิต หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ซึ่งพบได้บ่อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 เพราะการขาดฮอร์โมนอินซูลินทำให้ น้ำตาลสูงวิกฤติ และทำให้เกิดภาวะเลือดเป็นกรดตามมา ส่วนอาการจากการใช้กัญชามาเป็นเวลานานหรือใช้ในปริมาณมาก ๆ (Cannabis hyperemesis syndrome, CHS) คือ อาการอาเจียนรุนแรง อาเจียนทุกเช้า และปวดท้อง ซึ่งคล้ายกับอาการของ DKA

ในปี ค.ศ. 2018 ทีมของ Barbara Davis Center พบว่าผู้ใหญ่ประมาณ 30% คือราว 135 ราย จาก 450 ราย ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 รายงานว่าตนเองใช้กัญชา และการใช้กัญชานี้สัมพันธ์กับความเสี่ยงของ DKA ที่เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ใช้กัญชา Halis Kaan Akturk และคณะจากรัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รวบรวมข้อมูลจากผู้ใหญ่ 68 รายที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ร่วมกับได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น DKA และเข้าเกณฑ์การวิจัย จะได้รับการถามประวัติการใช้กัญชา และตรวจปัสสาวะหาส่วนประกอบของกัญชา ผลวิจัยพบ DKA ทั้งหมด 172 เหตุการณ์ และพบว่าผู้ใช้กัญชามีค่าความเป็นด่าง (pH) และไบคาร์บอนเนตในเลือดมากกว่ากลุ่มที่ไม่ใช้กัญชาอย่างมีนัยสำคัญ จนทำให้ผู้วิจัยได้ตั้งชื่อของภาวะน้ำตาลสูงวิกฤติและภาวะอาเจียนรุนแรงจากกัญชาที่เกิดร่วมกันว่าเป็น Hyperglycemic Ketosis due to Cannabis Hyperemesis Syndrome (HK-CHS) คือ เลือดที่ควรจะเป็นกรดในโรค DKA กลับไม่เป็นกรดเพราะสมดุลของกรดด่างในเลือดเปลี่ยนแปลงจากอาการอาเจียนรุนแรงหลังการใช้กัญชานั่นเอง

ในผู้ป่วยที่มาด้วยน้ำตาลสูงวิกฤติซึ่งสงสัยภาวะ DKA แต่ค่าเลือดกลับไม่เป็นกรด แพทย์ควรนึกถึงประวัติการใช้กัญชาของผู้ป่วยในการวินิจฉัยแยกโรคด้วย การตรวจ pH หรือไบคาร์บอเนตที่ปกติอาจไม่เพียงพอสำหรับการตัดภาวะ DKA ออกไปในผู้ที่มีน้ำตาลสูง และสงสัยการใช้กัญชา

 

เรียบเรียงโดย พญ. นิษฐา ปรุงวิทยา
ข้อมูลจาก
  1. https://www.medscape.com/viewarticle/965033#vp_1
  2. https://diabetesjournals.org/care/article-abstract/45/2/481/139018/Differentiating-Diabetic-Ketoacidosis-and?redirectedFrom=fulltext

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก