KDIGO ได้กำหนดให้การดูแลผู้ป่วยโรคไตที่ยังไม่ได้ฟอกไตควรมีการควบคุมความดันโลหิตอย่างเข้มงวดโดยให้มีค่าความดัน Systolic น้อยกว่า 120 mmHg เพื่อลดอัตราการตายจากทุกสาเหตุ
KDIGO 2021 ได้ออกข้อแนะนำโดยละเอียด 11 ข้อและแนวทางปฏิบัติ 20 หัวข้อ รวมถึงการปรับปรุงแนวทางปฏิบัติเดิมของปี 2012 โดยเน้นย้ำในเรื่องกระบวนการที่ใช้ในการวัดความดันโลหิต และการสอบเทียบเครื่องมือที่ใช้ในการวัดความดันโลหิตแต่ละประเภทให้มีมาตรฐานเท่าเทียมกัน นอกจากนั้นยังมีคำแนะนำเรื่องการจำกัดปริมาณโซเดียมให้น้อยกว่า 2 กรัม/วันหรือโซเดียม คลอไรด์น้อยกว่า 5 กรัม/วัน คำแนะนำให้มีการออกกำลังกายที่มีความหนักปานกลางอย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์หรือขึ้นกับสภาพร่างกาย สำหรับการใช้ยานั้นควรใช้ยาในกลุ่ม Renin-angiotensin system inhibitors ไม่ว่าจะเป็น ACEIs หรือ ARBs ในคนไข้ CKD ที่ความดันโลหิตสูงและมี albuminuria ระดับปานกลางถึงสูง ไม่ว่าจะเป็นเบาหวานหรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ ACEIsและ ARBs ร่วมกัน
Dr. George Thomas และ Dr. Crystal Gadegbeku จาก Glickman Urological and Kidney Institute มีความเห็นว่าควรมีการวิจัยเพิ่มเติม เพื่อเป็นแนวทางให้บรรลุเป้าหมายในการควบคุมความดันโลหิต ผู้ป่วยที่เป็นโรค CKD ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ได้รับประโยชน์มากขึ้นจากการควบคุมความดันโลหิตแบบเข้มข้น ดังนั้น มาตรฐานการปฏิบัติของ KDIGO จึงมีมากและมีประโยชน์ต่อแพทย์ทุกคนที่นำไปใช้
เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ
ข้อมูลจาก https://www.medscape.com/viewarticle/953536