การศึกษาพบว่า เบาหวานไม่ได้เพิ่มแนวโน้มที่จะเกิดอาการระยะยาวในผู้ป่วยที่หายจากการติดเชื้อโควิดแล้ว
งานวิจัยได้ศึกษาผู้ป่วยโควิดที่เข้ารักษาตัวในรพ.จำนวน 435 คน มีอายุเฉลี่ย 70.2 ปี และ 62.1% เป็นเพศชาย โดยแบ่งเป็นผู้ป่วยโควิดที่เป็นเบาหวาน 123 คน และผู้ป่วยที่ไม่ได้เป็นเบาหวาน 145 คน โดยพบอาการหลังติดเชื้อในระยะเวลา 7.2 เดือนหลังจากออกจาก รพ. ไม่ต่างกัน
การศึกษาได้พบข้อจำกัดในการประกอบอาชีพ จำนวน 64 คน, ในการเข้าสังคม จำนวน 159 คน, ในการทำกิจวัตรประจำวันที่ต้องใช้เครื่องมือ จำนวน 100 คน และในการทำกิจวัตรประจำวันพื้นฐาน 132 คน และมีการพบอาการอ่อนเพลีย (66.2%) หอบเหนื่อยเมื่อออกแรง (53.8%) และปวดกล้ามเนื้อ (44.8%) เป็นอาการที่เจอได้บ่อยในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน อาการอื่นๆ ได้แก่ วิตกกังวลและซึมเศร้า (21%) ความจำเสื่อม (23.4%) สมาธิสั้น (8.3%) และคุณภาพการนอนแย่ลง (37.9%) โดยภาพรวม อาการของภาวะหลังติดเชื้อโควิดไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานและกลุ่มผู้ป่วยควบคุม
ผลการศึกษานี้ยังคล้ายคลึงกับรายงานของการศึกษาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะอาการเจ็บปวด สมาธิสั้น วิตกกังวลและซึมเศร้า การนอนหลับผิดปกติ และความจำเสื่อม อย่างไรก็ตาม การศึกษาในปัจจุบันได้วิเคราะห์อาการที่เกิดหลังจากการหายจากติดเชื้อโควิดในระยะยาว เทียบกับรายงานก่อนหน้าที่ทำการศึกษาในระยะเริ่มหายจากการติดเชื้อโควิด และในการศึกษานี้กลุ่มตัวอย่างมีอายุมากกว่ากลุ่มของการศึกษาก่อนหน้า กลุ่มผู้ป่วยมีอายุมากกว่านั้นก็จะมีโรคร่วมมากกว่า เช่น ภาวะอ้วน หรือความดันโลหิตสูง ซึ่งจะส่งผลต่อระยะของการติดเชื้อโควิด 19
หลักฐานที่มีในปัจจุบันและก่อนหน้านี้ สรุปว่า เบาหวานน่าจะมีบทบาทเกี่ยวข้องกับต่อการติดเชื้อโควิดในระยะแรกมากกว่าจะมีผลต่อการเกิดอาการหลังจากการหายติดเชื้อในผู้ป่วยที่รอดชีวิตจากโควิดและเข้ารับการรักษาในรพ.ก่อนหน้านี้ ข้อสันนิษฐานนี้ยังคงต้องการการศึกษาเพิ่มเติมในอนาคต
- https://specialty.mims.com/topic/diabetes-not-a-risk-factor-for-long-covid
- https://diabetesjournals.org/diabetes/article/70/12/2917/139062/Diabetes-and-the-Risk-of-Long-term-Post-COV