การศึกษาพบว่าผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายมีอัตราการเสียชีวิต และอัตราการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันสูง โดยมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง เช่น อายุที่มากขึ้น และโรคร่วมที่เกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด
โรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย (End stage renal disease, ESRD) เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของความทุพลภาพ และนำไปสู่การเสียชีวิต โดยมีโรคหัวใจ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (Acute myocardial infarction) เป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตที่สำคัญ ในผู้ป่วยกลุ่มนี้ที่ได้รับการฟอกไต ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานว่าการฟอกไตส่งผลต่ออัตราการเกิดโรคหัวใจด้วยหรือไม่ การศึกษาฝั่งยุโรปเชื่อว่าไม่ได้มีผลเกี่ยวเนื่องกัน แต่การศึกษาฝั่งเอเชียพบว่า การฟอกไตโดยเฉพาะฟอกไตทางหน้าท้อง เป็นตัวพยากรณ์โรคและเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้น
Antoni Siso-Almirall และทีมงานได้ทำการศึกษาในประเทศสิงคโปร์ โดยรวบรวมข้อมูลผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง 5,309 ราย ระหว่างปี 2007 – 2012 เพื่อศึกษาอัตราการเสียชีวิต และค้นหาปัจจัยที่อาจเป็นตัวพยากรณ์โรคในผู้ป่วยกลุ่มนี้ โดยมีผู้ป่วยที่ได้รับการฟอกไตทางเส้นเลือด 4,449 ราย และฟอกไตทางหน้าท้อง 860 ราย พบว่าอัตราการเสียชีวิตโดยรวมของผู้ป่วยกลุ่มนี้อยู่ที่ 34% ซึ่งสาเหตุหนึ่งในสามของการเสียชีวิตเกิดมาจากโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้การพยากรณ์โรคแย่ลง ได้แก่ อายุมากกว่า 60 ปี การมีโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง โรคเกี่ยวกับหลอดเลือดส่วนปลาย การมีประวัติสูบบุหรี่ รวมไปถึงการฟอกไตทางหน้าท้อง แต่สำหรับอัตราการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน พบว่าการฟอกไตทางหน้าท้อง หรือฟอกไตทางเส้นเลือด ไม่ได้มีความแตกต่างกัน
การศึกษาในครั้งนี้นับว่าได้ผลตรงข้ามกับหลาย ๆ การศึกษาจากประเทศทางตะวันตก แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่หลายอย่าง เนื่องจากมีปัจจัยหลายๆอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องกับอัตราการเสียชีวิต เช่น ปัจจัยทางสังคม อาหารการกิน ความดันโลหิต เป็นต้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ไม่สามารถนำมาวิเคราะห์ทั้งหมดได้ จึงจำเป็นจะต้องมีการศึกษต่อยอดถึงความจำเป็นในการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทั้งหลายในผู้ป่วยโรคไตระยะสุดท้ายที่ต้องได้รับการฟอกไตอีกครั้ง
ข้อมูลจาก
- https://specialty.mims.com/topic/deaths–heart-attacks-remain-high-among-asian-esrf-patients-on-dialysis
- https://annals.edu.sg/death-and-cardiovascular-outcomes-in-end-stage-renal-failure-patients-on-different-modalities-of-dialysis/