CIMjournal

Long-acting PrEP กับบทบาทในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส HIV


วงการสาธารณสุขในภูมิภาคยุโรป มีความพยายามจะจำกัดการแพร่ระบาดของเชื้อ
HIV ให้ได้มากที่สุดตามเป้าหมายที่วางไว้จาก WHO โดยการใช้ยา Preexposure prophylaxis (PrEP) ที่สามารถออกฤทธิ์ได้นานขึ้น และยังมีประสิทธิภาพในการกดปริมาณไวรัส มาใช้ในการควบคุมป้องกันการติดเชื้อของประชากรโดยเฉพาะในกลุ่มเป้าหมาย

เมื่อปี 2020 องค์การสหประชาชาติ มีนโยบาย Joint United Nations Programme on HIV/AIDS (UNAIDS) ซึ่งต้องการบรรลุเป้าหมาย 90 – 90 – 90 กล่าวคือ ร้อยละ 90 ของผู้ที่อยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อ HIV จะต้องทราบสถานะการติดเชื้อของตัวเอง ร้อยละ 90 ของผู้ที่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อ ต้องได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส และร้อยละ 90  ของผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส ต้องสามารถกดปริมาณไวรัส จนตรวจไม่พบ และไม่สามารถถ่ายทอดเชื้อไปสู่ผู้อื่นได้

อย่างไรก็ตาม จากสถิติของภูมิภาคยุโรปในปี 2022 กลับพบว่า มีร้อยละ 72 ของประชากรประมาณ 3 ล้านคนที่อยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อ HIV ที่ทราบสถานะการติดเชื้อของตัวเอง มีร้อยละ 63 ที่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อและได้รับการรักษา และมีร้อยละ 60 ที่สามารถกดปริมาณไวรัสได้ตามเป้าหมายหลังการรักษา เกิดความท้าทายต่อวงการสาธารณสุขในภูมิภาคยุโรป ซึ่งกำลังดำเนินงานเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายที่ร้อยละ 95 – 95 – 95 ในปี 2025 และกำจัดโรคเอดส์ให้หมดในปี 2030 สำหรับยา Preexposure prophylaxis หรือ PrEP มีความสำคัญในการลดการแพร่ระบาดของไวรัส HIV โดยเมื่อเดือนกันยายน 2023 ที่ผ่านมา คณะกรรมการยุโรปได้อนุมัติยา Apretude (Long-acting cabotegravir) ซึ่งได้รับการอนุมัติจาก FDA สหรัฐอเมริกาไปแล้วตั้งแต่ปี 2021 และตามด้วยคำแนะนำในปี 2022 จากองค์การอนามัยโลกที่สนับสนุนให้ใช้ยานี้ในการป้องกันเชื้อ HIV เนื่องจากปลอดภัย มีประสิทธิภาพดี และสามารถออกฤทธิ์ได้ยาวนาน โดยมีข้อมูลสนับสนุนจากงานวิจัยทางคลินิก HPTN 084 ซึ่งได้แสดงประสิทธิภาพของ long-acting cabotegravir ที่ใช้วิธีฉีด 6 ครั้งต่อปี เหนือกว่าการรับประทาน emtricitabine/tenofovir disoproxil fumarate วันละครั้ง นอกจากนี้ ผลจาก CARISEL trial ก็พบว่า ยาสูตร long-acting cabotegravir และ rilpivirine สามารถกดปริมาณไวรัสได้ตามเป้าหมายในอาสาสมัครร้อยละ 87 ที่เข้าร่วมการศึกษา

แม้วงการสาธารณสุขจะมีความหวังจากยาชนิดใหม่ในการต่อสู้กับเชื้อ HIV ทว่ายังมีความท้าทายรออยู่เบื้องหน้า อาทิ การเข้าถึงยาสูตรใหม่ของผู้ติดเชื้อและผู้ร่วมอาศัย โดยเฉพาะในประชากรกลุ่มย่อยต่าง ๆ เนื่องจากอุปสรรคทางเศรษฐกิจสังคม ฯลฯ ซึ่งเป็นประเด็นที่จะต้องมีการบริหารจัดการต่อไป

 

เรียบเรียงโดย พญ. สลิล ศิรินาม
ข้อมูลจาก https://www.medscape.com/viewarticle/998937

 

 

 

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก