มีการศึกษาว่าการฉีดวัคซีน Moderna ขนาด 50 ไมโครกรัม จำนวนสองโดสในกลุ่มประชากรอายุ 6 – 11 ปีมีความปลอดภัยจากผลข้างเคียงจากวัคซีน มีความสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันและมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อโควิด 19 ไม่ด้อยไปกว่าการฉีด Moderna ในกลุ่มผู้ใหญ่
ในปัจจุบัน วัคซีน mRNA ยี่ห้อ Moderna นั้น ได้รับการรับรองให้ฉีดได้ในกลุ่มประชากรอายุมากกว่า 12 ปีขึ้นไปโดยมีผลการวิจัยรับรองถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด 19 จากทั่วโลก แต่ทว่าวัคซีนชนิดนี้ยังไม่ได้รับการรับรองให้ใช้ในกลุ่มอายุต่ำกว่า 12 ปี รวมไปถึงสหรัฐอเมริกา และไทย การระบาดของโรคโควิดในกลุ่มประชากรวัยนี้ทำให้โรงเรียนหลาย ๆ แห่งต้องปิดการเรียนการสอนส่งผลไปถึงการศึกษาของเด็กกลุ่มนี้เป็นอย่างมาก
การศึกษา KidCOVE Trial ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาได้ทำการศึกษาประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน Moderna โดยแบ่งการศึกษาเป็นสองส่วน โดยส่วนแรกเป็นการศึกษาหาขนาดโดสที่เหมาะสมสำหรับการฉีดวัคซีนและในส่วนที่สองเป็นการทดลองหาประสิทธิภาพของวัคซีนเทียบกับการให้ยาหลอกโดยแบ่งกลุ่มทดลองเป็นสองกลุ่มโดยกลุ่มแรกจะได้รับวัคซีน Moderna ขนาด 50 ไมโครกรัม สองโดสห่างกัน 28 วัน และกลุ่มที่สองนั้นจะได้รับยาหลอกสองโดสห่างกัน 28 วันเช่นเดียวกัน การศึกษานี้ได้รวบรวมกลุ่มตัวอย่างจำนวน 751 คน โดยการทดลองในส่วนแรกนั้นได้ข้อสรุปออกมาว่า การให้วัคซีนขนาด 50 หรือ 100 ไมโครกรัม ล้วนแต่สามารถกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันได้ไม่ต่างกันเมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ใหญ่วัยรุ่น นำไปสู่การศึกษาในส่วนที่สองซึ่งศึกษาความปลอดภัยและระดับภูมิคุ้มกันก่อนฉีด วัคซีน Moderna ขนาด 50 ไมโครกรัม เทียบกับยาหลอก โดยผลการศึกษาปรากฏออกมาว่า เด็กที่ได้รับวัคซีน Moderna ขนาด 50 ไมโครกรัมมีระดับภูมิคุ้มกันหรือ neutralizing antibody titer อยู่ที่ 1610 (95% CI 1457-1780) เมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ใหญ่ซึ่งได้รับ Moderna ขนาด 100 ไมโครกรัมระดับ neutralizing antibody titer อยู่ที่ 1300 (95% CI 1171-1443) ประสิทธิภาพของวัคซีนต่อสายพันธุ์เดลต้าหลังฉีดไปแล้ว 14 วันอยู่ที่ 88% (95% CI 70-95.8) อีกทั้งช่วงหลัง 82 วันหลังฉีดวัคซีนไม่พบการรายงานถึงผลข้างเคียงที่รุนแรงต่อชีวิตเช่น เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ หรือ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
การฉีดวัคซีน Moderna ในกลุ่มประชากร 6 – 11 ปี นั้นมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคไม่ต่างจากในกลุ่มประชากร 12 ปีขึ้นไป และ อาจเป็นวัคซีนทางเลือกหนึ่งนอกเหนือจากวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันได้ เนื่องจากมีความปลอดภัยสูง
เรียบเรียงโดย นพ. วิชล ลิ้มพัฒนาชาติ
อ้างอิงจาก https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMoa2203315