งานวิจัย Prospective cohort จากสหรัฐอเมริกา พบว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด ชนิด Recombinant zoster virus (RSV) จำนวน 2 เข็ม ช่วยป้องกันการเกิดโรคงูสวัดได้ดีเป็นเวลาอย่างน้อย 4 ปี
วัคซีนงูสวัดที่มีใช้ในสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน คือ วัคซีนชนิด Recombinant zoster virus (RSV) หรือในชื่อ Shingrix ให้ประสิทธิภาพสามารถป้องกันการเกิดโรคได้ร้อยละ 97 จากผลการวิจัยทางคลินิก จึงได้รับการแนะนำจาก CDC สหรัฐอเมริกา ให้ฉีดในผู้มีภูมิคุ้มกันปกติที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป เพื่อป้องกันโรคงูสวัด โดยรับวัคซีน 2 เข็มห่างกัน 2 – 6 เดือน และยังสามารถฉีดต่อจากผู้เคยได้วัคซีนชนิด Zostavax ระยะห่างตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไปได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม เพื่อหาประสิทธิภาพของวัคซีนจากการใช้จริงในประชากรกลุ่มเป้าหมาย CDC สหรัฐอเมริกาจึงร่วมกับระบบสุขภาพ 9 แห่ง เก็บข้อมูลจาก Vaccine Safety Datalink โดยดำเนินงานวิจัยตั้งแต่ปี 2018 – 2022 เก็บประวัติการได้รับวัคซีนป้องกันงูสวัด และข้อมูลการเกิดโรค ทั้งนี้ ได้ใช้นิยามการเกิดโรคงูสวัด คือ ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยโรคงูสวัดและได้รับยาต้านไวรัสภายใน 7 วันหลังการวินิจฉัย ผลพบว่า ในกลุ่มผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม โดยไม่จำเป็นว่าได้รับเข็มสองเมื่อใด วัคซีนมีประสิทธิผล 79% ในการป้องกันโรคงูสวัดในปีแรก และลดลงเหลือ 73% ในปีที่ 4 หลังได้วัคซีน ขณะที่กลุ่มผู้ได้รับวัคซีนเพียง 1 เข็ม วัคซีนมีประสิทธิผล 70% ในการป้องกันโรคงูสวัดในปีแรก และลดลงเหลือเพียง 52% ในปีที่ 4 หลังได้วัคซีน สำหรับผลข้างเคียงหลังการได้รับวัคซีนไม่พบความรุนแรง พบเพียงอาการทั่วไป เช่น ปวดกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ อาการไข้ในระดับน้อย เป็นต้น
ผลการศึกษานี้ช่วยสนับสนุนคำแนะนำในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด ในผู้มีข้อบ่งชี้และเพิ่มความมั่นใจในประสิทธิผลของวัคซีนในการป้องกันโรคในระยะยาว
เรียบเรียงโดย พญ. สลิล ศิรินาม
ข้อมูลจาก https://www.medscape.com/viewarticle/shingles-vaccine-offers-4-years