The European Academy of Allergy and Clinical Immunology (EAACI) ได้ทำการรวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากสหวิชาชีพเพื่อออกแนวทางเวชปฏิบัติสำหรับแพทย์ในสถานพยาบาลปฐมภูมิในการวินิจฉัย รักษาและส่งต่อผู้ป่วย 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ หอบหืด แพ้อาหาร แพ้ยา ผื่นลมพิษ และอาการแพ้รุนแรงหรืออนาฟัยแลกซิส
กลุ่มอาการแพ้เป็นกลุ่มโรคที่พบได้บ่อยในคนไข้ทั่วไป ผู้ป่วยส่วนมากจะเข้ารับการรักษากับแพทย์ในสถานพยาบาลปฐมภูมิเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตามแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปอาจยังมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการรักษาคนไข้กลุ่มนี้น้อย อีกทั้งยังไม่เคยมีการกำหนดแนวทางเวชปฏิบัติอันเป็นมาตรฐานแบบแผนภาพที่เข้าใจง่าย EAACI จึงได้ทำการจัดทำแนวทางเวชปฏิบัติแบบแผนภาพขึ้นในการศึกษานี้
การศึกษาชิ้นนี้ได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากสหสาขาวิชาชีพอันประกอบด้วย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจ นักวิจัย แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป และนักศึกษาปริญญาเอก เพื่อทำการรวบรวมข้อมูลการศึกษาและแนวทางเวชปฏิบัติต่างๆในปัจจุบันเพื่อนำมาสังเคราะห์เป็นแนวทางเวชปฏิบัติแบบแผนภาพที่เข้าใจง่าย โดยได้จัดทำทั้งหมด 5 หัวข้อ ได้แก่ หอบหืด แพ้อาหาร แพ้ยา ผื่นลมพิษและ อาการแพ้รุนแรงหรืออนาฟัยแลกซิส แผนภาพในแต่ละหัวข้อมีการแสดงรายละเอียดของการวินิจฉัยโรค เช่น อาการที่เข้าได้กับโรค อาการที่ทำให้คิดถึงภาวะอื่นที่ไม่ใช่โรคนั้นๆ อาการที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ยังให้รายละเอียดถึงการรักษาเบื้องต้น เช่น การใช้ยาชนิดต่าง ๆ หรือการตรวจที่ควรทำเพิ่มเติม อีกทั้งยังแสดงถึงระยะเวลาที่ควรติดตามอาการคนไข้ แนวทางการรักษาต่อและคำแนะนำในการส่งคนไข้เข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ต่อไป หลักการของแนวทางปฏิบัติแบบแผนภาพนี้สามารถนำมาปรับใช้ในการรักษาคนไข้ได้ทั่วไปอย่างไรก็ตามต้องคำนึงถึงทรัพยากรและระบบการบริหารจัดการยาและสิทธิการรักษาของผู้ป่วยที่ต่างกันในแต่ละประเทศ ทำให้อาจต้องมีการปรับแผนการวินิจฉัย รักษาและส่งต่อให้เข้ากับบริบทของแต่ละพื้นที่
การศึกษานี้ได้รวบรวมหลักฐานข้อมูลทางวิชาการและความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเพื่อออกแนวทางเวชปฏิบัติแบบแผนภาพที่เข้าใจง่ายสำหรับแพทย์ในสถานพยาบาลปฐมภูมิเพื่อช่วยให้แพทย์มั่นใจในการวินิจฉัย การรักษาและการส่งต่อผู้ป่วยมากขึ้น อย่างไรก็ตามยังคงต้องมีการศึกษาในอนาคตเกี่ยวกับผลของการใช้แนวทางเวชปฏิบัติแบบแผนภาพนี้ต่อตัวคนไข้และระบบสาธารณสุขในแต่ละพื้นที่ต่อไป
- https://www.medscape.com/viewarticle/971747#vp_1
- https://onlinelibrary.wiley.com/doi/full/10.1111/all.15273