นพ. โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวถึง การจัดหาวัคซีนป้องกันโควิดเดือน ก.ย. – ธ.ค. 2564 ว่า ประเทศไทยมีเป้าหมายฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 70% ของประชากร แต่การระบาดของเดลตามีการติดเชื้อได้มาก 1 ราย อาจแพร่ 7 – 8 ราย ภูมิคุ้มกันหมู่ 70% อาจยังไม่พอ ถ้าเรามีคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือคนที่ยังไม่เคยติดเชื้อ ต้องพยายามฉีดให้หมด ภูมิคุ้มกันน่าจะขยับได้มากกว่า 70% ทางกระทรวงสาธารณสุขต้องเตรียมวัคซีนให้เพียงพอ
แถลงข่าว 3 กันยายน วัคซีนหลักที่มี คือ Sinovac ภายในเดือน ก.ย. – ต.ค. จะมีเดือนละ 6 ล้านโดส, AstraZeneca เดือน ก.ย. จะได้ 7.3 – 8 ล้านโดส และของในเดือน ต.ค. – ธ.ค. จะได้ 10, 13, 13 ล้านโดสตามลำดับ ภายในสิ้นปีนี้จะได้ครบถ้วน 61 ล้านโดส ส่วนของ Pfizer นั้น ภายในเดือน ต.ค.- ธ.ค. จะได้วัคซีนเดือนละ 8 – 10 ล้านโดส จึงทำให้มีวัคซีนของ AstraZeneca และ Pfizer จำนวนมากในช่วง 3 – 4 เดือนข้างหน้านี้
การฉีดวัคซีนสูตรไขว้นี้ จะมีเพียง AstraZeneca เป็นเข็มแรก และตามด้วย Pfizer เป็นเข็มที่ 2 และการฉีดหลังจากนั้นจะมีอยู่ 3 แบบ คือ 1. AstraZeneca 2 เข็ม 2. Pfizer 2 เข็ม และ 3. ฉีดไขว้ AstraZeneca เข็ม 1 และ Pfizer เป็นเข็มที่ 2 ตอนนี้ยังไม่มีแผนที่จะสั่งซื้อเพิ่ม เว้นแต่ว่าจะมีข้อมูลการพัฒนาว่าสามารถฉีดวัคซีนในเด็กได้ เพราะการฉีดวัคซีนในเด็กต้องเป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัย คือ วัคซีนเชื้อตาย วัคซีน mRNA ก็ฉีดได้เพียงแต่ผลในระยะยาวเรายังไม่ทราบผล
ข้อมูลและภาพประกอบจาก www.hfocus.org