กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พบผู้ป่วยซิกา 110 ราย ใน 20 จังหวัด ในจำนวนนี้เป็นหญิงตั้งครรภ์ 6 ราย ห่วงมีผลแทรกซ้อนเสี่ยงแท้ง หรือทารกเสี่ยงมีภาวะศีรษะเล็ก กำชับให้ทุกจังหวัดคัดกรองผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ และสนับสนุนให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) แจ้งเตือนหญิงตั้งครรภ์ พร้อมทั้งเร่งทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายอย่างเข้มงวด
27 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 นพ. โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยว่า แนวโน้มผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสซิกาเริ่มสูงขึ้นในเดือนพฤษภาคม และสูงสุดในเดือนมิถุนายน ขณะที่เดือนกรกฎาคมพบหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อ 6 ราย จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดตั้งแต่ 1 มกราคมจนถึงเดือนนี้กว่า 110 ราย ใน 20 จังหวัด ซึ่งอาจทำให้เสี่ยงต่อการแท้ง หรือทารกมีภาวะศีรษะเล็ก เนื่องจากมีข้อมูลการติดตามหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อไวรัสซิกา ระหว่าง พ.ศ. 2559 – 2565 รวม 241 ราย มีการแท้ง 4 ราย บุตรมีภาวะศีรษะเล็ก และผลตรวจเชื้อไวรัสซิกาเป็นบวก 3 ราย และภายหลังติดตามเด็ก 77 ราย เป็นเวลา 2 ปี พบว่า มีพัฒนาการผิดปกติ 4 ราย
นพ. โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า พบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสซิกาทุกภูมิภาคของประเทศ ซึ่งในหลายพื้นที่นั้นมีการระบาดของโรคไข้เลือดออกที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรคเช่นเดียวกัน จึงมีคำสั่งให้ตรวจคัดกรองผู้ป่วยที่มีผื่น ร่วมกับมีไข้ ปวดข้อ หรือตาแดง อย่างน้อย 1 อาการ โดยกำชับให้ดำเนินมาตรการเข้มงวดในจังหวัดที่พบผู้ป่วยและมีหญิงตั้งครรภ์ ให้ อสม. แจ้งเตือนหญิงตั้งครรภ์ ใช้ยาทากันยุง และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในบ้านทุกสัปดาห์
แหล่งที่มา: https://www.hfocus.org/content/2023/07/28082

