CIMjournal

แนวโน้มการรักษาเบาหวานในอนาคต


การรักษาโรคเบาหวานมีความก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยีที่มีการพัฒนามากยิ่งขึ้น มีการสำรวจบริษัทสตาร์ทอัพทั่วโลก ถึงแนวโน้มการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการดูแลรักษาเบาหวาน ซึ่งจะส่งผลต่อการดูแลรักษาเบาหวานในอนาคต มาติดตามกันค่ะ

  • การตรวจระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดทางผิวหนัง (Transdermal glucose monitoring) อาจเป็นในรูปแบบแผ่นแปะผิวหนังที่มีเข็มขนาดเล็ก สวมใส่ในรูปแบบปลอกแขนโดยสามารถตรวจระดับน้ำตาลในเลือดได้ต่อเนื่อง 14 วัน พร้อมให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว หรือบางสตาร์ทอัพพัฒนาแผ่นแปะชนิดใช้ครั้งเดียว ไม่มีเข็ม โดยตรวจระดับน้ำตาลในเลือด โดยอาศัยสารสกัดจากรูขุมขน ทั้งนี้ส่วนใหญ่มีการรายงานผลทางแอปพลิเคชัน
    .
  • การตรวจระดับน้ำตาลกลูโคสด้วยแสง (Optical glucose monitoring) เป็นวิธีที่ไม่ล่วงล้ำร่างกายผู้ป่วย โดยอาศัยเทคนิคอินฟาเรดสเปกโตสโกปีและรามานสเปกโตสโกปี เป็นประโยชน์ในผู้ที่ไม่สะดวกในการเจาะเลือด เช่น ผู้ป่วยเด็ก
    .
  • อุปกรณ์นำส่งอินซูลิน (Insulin delivery devices) เป็นการพัฒนาเพื่อให้ผู้ป่วยใช้งานสะดวก มากยิ่งขึ้น รวมถึงลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บจากการฉีด เช่น ปากกาอินซูลินอัจฉริยะที่สามารถนำส่งอินซูลินเข้าสู่กระแสเลือดโดยอัตโนมัติรวมถึงในตอนกลางคืนด้วย หรืออุปกรณ์ฉีดอินซูลินขนาดกะทัดรัดที่ทำงานด้วยแบตเตอรี่ โดยสามารถตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดจากแผ่นวัดระดับกลูโคสก่อนจะฉีดอินซูลินในปริมาณที่เหมาะสมที่แขน หน้าท้อง หรือต้นขาภายในไม่กี่วินาที
    .
  • ตับอ่อนเทียม (Artificial pancreas) ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเลียนแบบการทำงานของตับอ่อน ซึ่งโดยทั่วไปจะประกอบด้วยเครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลต่อเนื่อง เครื่องปั๊มอินซูลินอัตโนมัติ และระบบควบคุม เช่น ตับอ่อนเทียมของ Invitreo Biosciences ประกอบด้วยไอส์เล็ตส์ของตับอ่อน ภายในเยื่อเลือกผ่านสังเคราะห์ ผนวกกับนาโนแคปซูลจากเส้นใย Polysulfone (Psf)/TPGS ช่วยให้การปลูกถ่ายตับอ่อนปลอดภัยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และมีตับอ่อนเทียมในรูปแบบอื่น ๆ ด้วย
    .
  • การจัดการโรคเบาหวานแบบดิจิทัล (Digital diabetes management) เช่น มีสตาร์ทอัพที่พัฒนาแอปพลิเคชันรายงานระดับน้ำตาลจากตัวตรวจจับอย่างต่อเนื่อง แล้ววิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเสนอแผนการควบคุมโรคเบาหวานแก่ผู้ใช้งาน หรือมีสตาร์ทอัพที่พัฒนาเครื่องมือที่ให้คำแนะนำปริมาณอินซูลินสำหรับผู้ป่วยเฉพาะรายและมีระบบบันทึกข้อมูลรายวันสำหรับจัดเก็บข้อมูลมื้ออาหาร การออกกำลังกาย และปริมาณอินซูลิน
    .
  • การประเมินความเสี่ยงระยะก่อนเป็นเบาหวาน (Prediabetic risk assessment) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน เช่น การพัฒนาระบบตรวจวินิจฉัยที่อาศัยปัญญาประดิษฐ์ สำหรับพยากรณ์โรคเบาหวาน หรือการพัฒนาชุดตรวจ STAP test วัดระดับเอนไซม์แอลคาไลน์ฟอสฟาเทสจากลำไส้ (intestinal alkaline phosphatase, IAP) จากตัวอย่างอุจจาระ โดยภาวะพร่องเอนไซม์นี้เสี่ยงต่อโรคเบาหวานภายในระยะเวลาราว 5 ปี
    .
  • การดูแลผู้ป่วยเบาหวานทางไกล (Telediabetic care) ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ลดระยะเวลารอคอย และช่วยให้บุคลากรติดตามผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยให้การดูแลรักษามีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
    .
  • ระบบสนับสนุนการตัดสินใจทางคลินิกสำหรับโรคเบาหวาน (Diabetes clinical decision) อาศัยความรู้จากหลักฐานเชิงประจักษ์ร่วมกับข้อมูลผู้ป่วยเฉพาะราย ผ่านการวิเคราะห์ด้วย AI เช่น มีสตาร์ทอัพพัฒนาระบบบันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านแอปฯ ที่เชื่อมโยงกับระบบคลาวด์ให้ผู้ใช้สามารเข้าถึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ หรือแพลตฟอร์มติดตามดูแลรักษาผู้ป่วย ลดความยุ่งยากในการเข้าถึงข้อมูล
    .
  • การบำบัดด้วยเซลล์สำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย (Personalized cell therapy) เช่น แพลตฟอร์มเวชศาสตร์ฟื้นฟูสำหรับดูแลรักษาเบาหวาน โดยใช้ระบบชีวสารสนเทศในการถอดรหัสพันธุกรรมเพื่อปรับแต่งยีนให้เซลล์สำหรับรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 1 หรือสตาร์ทอัพที่พัฒนาวิธีรักษาแผลเบาหวานโดยใช้เทคโนโลยีเอนไซม์ การบำบัดด้วยเซลล์ หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น แผ่นแปะผิวหนัง สเปรย์ที่มีส่วนผสมของเอนไซม์สมานแผล
    .
  • การรักษาให้หายขาด (Curative therapies) เช่น การพัฒนาระบบการฟื้นฟูผู้ป่วยโรคเบาหวานโดยวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างแผนการรักษาเพื่อจัดการระดับน้ำตาลและลดการใช้ยา หรือการพัฒนาการรักษาด้วยเซลล์ต้นกำเนิด (Stem cells) เพื่อข้ามข้อจำกัดของการใช้ยา ช่วยปรับปรุงการทำงานของตับอ่อนได้

แนะนำอ่านเพิ่มเติม
แนวทางเวชปฏิบัติ สำหรับโรคเบาหวาน 2566 Clinical Practice Guideline for Diabetes 2023
แนวทางการดูแลพระสงฆ์ที่เป็นเบาหวาน/ความดันโลหิตสูง 2566

 

เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ
ข้อมูลจาก https://www.startus-insights.com/innovators-guide/diabetes-care-trends/

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก