CIMjournal
banner bacteria

ไมโครไบโอมในลำไส้กับโรคหืด (Gut microbiome and Asthma)


พญ. อรพรรณ โพชนุกูลศ.ดร. พญ. อรพรรณ โพชนุกูล
นายกสมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย

 

 

โรคหืดเป็นโรคเรื้อรังของทางเดินหายใจ เกิดจากปัจจัยพันธุกรรม สิ่งแวดล้อม และงานวิจัยในปัจจุบันพบว่ามีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับ “ไมโครไบโอม” หรือชุมชนจุลชีพที่อาศัยอยู่ในร่างกาย โดยเฉพาะลำไส้และปอด โดยความผิดปกติของสมดุลจุลชีพ (dysbiosis) มีบทบาทสำคัญต่อการเกิดและความรุนแรงของโรคหืด


ไมโครไบโอม (microbiome) คืออะไร

หมายถึงชุมชนจุลชีพทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะในลำไส้มากที่สุด นอกจากนี้ยังอยู่ที่เยื่อบุของร่างกาย เช่น ผิวหนัง ช่องปาก และทางเดินหายใจ ไมโครไบโอมเหล่านี้ประกอบด้วยแบคทีเรีย ไวรัส และรา จุลชีพเหล่านี้มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาระบบภูมิคุ้มกัน ความสมดุลระหว่างจุลชีพที่เป็นประโยชน์และจุลชีพก่อโรค จะช่วยปรับสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิด  tolerance และลดการอักเสบ โดย gut microbiome สามารถสื่อสารกับปอด เรียกว่า Gut–Lung Axis ซึ่งช่วยกระตุ้นการทำงานของ T regulatory cells และลดการอักเสบชนิด Th2/Th17 ในปอด ขณะที่ dysbiosis คือการที่จุลชีพอยู่แบบขาดความสมดุล อาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติและเพิ่มความไวต่อการอักเสบของหลอดลม


ปัจจัยที่มีผลต่อ dysbiosis 

ไมโครไบโอมในลำไส้จะมีเสถียรภาพเมื่ออายุประมาณ 3 ปี ดังนั้นปัจจัยตั้งแต่แรกเกิดมีผลอย่างมาก เช่น การคลอดทางช่องคลอดและการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จะช่วยส่งเสริมจุลชีพที่เป็นประโยชน์ (Bifidobacterium, Lactobacillus) ในขณะที่การผ่าคลอดและการได้รับยาปฏิชีวนะ มีผลทำให้ความหลากหลายของจุลชีพลดลงและเพิ่มความเสี่ยงโรคหืด โดยทารกที่มีความหลากหลายของจุลชีพต่ำ หรือมีสัดส่วน Firmicutes และ Bacteroidaceae มากเกินไป พบว่ามีความเสี่ยงพัฒนาเป็นโรคภูมิแพ้และโรคหืดในอนาคต อีกปัจจัยสำคัญที่คือ “อาหาร” โดยงานวิจัยชี้ว่าความหลากหลายของอาหาร (diet diversity) ในปีแรกของชีวิตสัมพันธ์กับการลดความเสี่ยงโรคหืดและภูมิแพ้ โดยในบางการศึกษาพบว่าความเสี่ยงโรคหืดลดลงประมาณร้อยละ 26 ต่ออาหารใหม่ที่ถูกแนะนำในปีแรก ในทางกลับกัน การบริโภคอาหารแปรรูปสูงหรืออาหารทารกเชิงพาณิชย์ที่มีความเป็นกรดสูงและความหลากหลายน้อยสัมพันธ์กับ dysbiosis และการเพิ่มความเสี่ยงภูมิแพ้ และโรคหืด


ไมโครไบโอมกับโรคหืด

เมื่อขาดความสมดุลของจุลชีพในลำไส้หรือที่เรียกว่า gut microbiome dysbiosis จะทำให้ความหลากหลายของจุลชีพลดลงและมีการเพิ่มขึ้นของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดการอักเสบ ผลที่ตามมาคือการผลิตสารเมทาบอไลต์ที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ เช่น short-chain fatty acids (SCFAs: acetate, propionate, butyrate) ลดลง ส่งผลให้กลไกการกระตุ้น T regulatory cells และการสร้างภูมิคุ้มกันบกพร่อง ความผิดปกตินี้เชื่อมโยงกับโรคเรื้อรังหลายชนิด รวมถึงโรคภูมิแพ้และโรคหืด โดยเฉพาะในเด็กเล็ก dysbiosis ในระยะต้นชีวิตสัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหืดและความรุนแรงของอาการหอบหืดในระยะยาว โดยงานวิจัยในเด็กเล็กที่เป็น longitudinal study พบว่าการมี Veillonella, Prevotella, Haemophilus ในทางเดินหายใจส่วนบนตั้งแต่วัยทารก จะเพิ่มโอกาสเกิดโรคหืดในอนาคต และการมี Clostridium มากในลำไส้ช่วงวัยเด็กเล็กจะเชื่อมโยงกับโรคหืด ในขณะที่จุลชีพที่มีประโยชน์ เช่น Faecalibacterium และ Bifidobacterium มักลดลงในเด็กที่เป็นหืด

นอกจากนี้ยังพบว่าไมโครไบโอมมีความสัมพันธ์กับชนิดของโรคหืด โดยใน Type 2 asthma (ที่มีภูมิแพ้ร่วมด้วย และค่าอีโอซิโนฟิลสูง) จะพบจุลชีพ Haemophilus, Moraxella มากขึ้น ในขณะที่ Non-Type 2 asthma (โรคหืดชนิดนิวโทรฟิล มีภาวะ อ้วน) มักพบ Fusobacterium มากขึ้น และจุลชีพที่ปกป้องเช่น Lactobacillales ลดลง ซึ่งสิ่งนี้อาจอธิบายได้ว่าทำไมผู้ป่วยบางกลุ่มตอบสนองต่อสเตียรอยด์ไม่ดี หรือดื้อต่อการรักษา


คำแนะนำในการนำไปใช้ (Clinical Implication)

มีงานวิจัยต่าง ๆ เกี่ยวกับการรักษาโรคหืดด้วยไมโครไบโอม ได้แก่ การเสริมโปรไบโอติก/พรีไบโอติก การรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เพื่อเพิ่ม SCFAs การใช้เมแทบอไลต์หรือจุลชีพเฉพาะสายพันธุ์ (Bifidobacterium, Clostridia, Bacteroides fragilis) ที่ช่วยกระตุ้น Tregs และลดการอักเสบในปอด แต่ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นข้อมูลจากสัตว์ทดลองที่มีหลักฐานชัด แต่การทดลองทางคลินิกในคนยังมีน้อย ต้องการศึกษาเพิ่มเติมในอนาคต ดังนั้นแนวทางการนำความรู้เรื่องไมโครไบโอมไปใช้ในทางคลินิกควรมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุน ความหลากหลายของอาหารตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ วัยทารก วัยเด็กเล็ก จนถึงผู้ใหญ่ เน้นอาหารที่อุดมด้วยผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี ปลา และผลิตภัณฑ์นมหมัก ซึ่งจะช่วยเพิ่มความหลากหลายของจุลชีพในลำไส้และการสร้าง SCFAs ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ในขณะเดียวกันควรลดการบริโภคอาหารแปรรูปและสารเติมแต่งที่ทำลายสมดุลของไมโครไบโอม แม้ว่าการใช้โปรไบโอติกหรือพรีไบโอติกเฉพาะชนิดมีผลลัพธ์ที่น่าสนใจในงานวิจัย แต่ยังต้องการหลักฐานทางคลินิกเพิ่มเติม ดังนั้นการปรับเปลี่ยนโภชนาการทั้งรูปแบบอาหารและความหลากหลายจึงถือเป็นวิธีที่สามารถนำมาใช้ในการลดความเสี่ยง และช่วยปรับการรักษาโรคหืดแบบไม่ใช้ยา โดยเน้นอาหารที่มีผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี ปลา และผลิตภัณฑ์นม โยเกิร์ต เพื่อลดโอกาสเกิด dysbiosis และเพิ่มการผลิต SCFAs ที่ช่วยต้านการอักเสบ ควบคู่กับการลดอาหารแปรรูปและสารเติมแต่ง แม้ว่าการเสริมโปรไบโอติกหรือพรีไบโอติกเฉพาะชนิดยังต้องการหลักฐานเพิ่มเติม แต่การส่งเสริมความหลากหลายของอาหารถือเป็นวิธีเชิงป้องกันที่มีศักยภาพในการลดความเสี่ยงโรคภูมิแพ้และโรคหืด (ดูตารางในภาพ)

Gut microbiome and Asthma

 

เอกสารอ้างอิง
  1. Özçam M, Lynch SV. The gut–airway microbiome axis in health and respiratory diseases. Nat Rev Microbiol. 2024;22(8):492-506. doi:10.1038/s41579-024-01048-8
  2. Venter C. Immunonutrition: Diet diversity, gut microbiome and prevention of allergic diseases. Allergy Asthma Immunol Res. 2023;15(5):545-561.
  3. Fujimura KE, Lynch SV. Microbiota in allergy and asthma and the emerging relationship with the gut microbiome. Curr Opin Immunol. 2015;36:94-101.
  4. Budden KF, Gellatly SL, Wood DLA, Cooper MA, Morrison M, Hugenholtz P, Hansbro PM. Emerging pathogenic links between microbiota and the gut–lung axis. Nat Rev Microbiol. 2017;15(1):55-63.
  5. Arrieta MC, Stiemsma LT, Dimitriu PA, Thorson L, Russell S, Yurist-Doutsch S, et al. Early infancy microbial and metabolic alterations affect risk of childhood asthma. Sci Transl Med. 2015;7(307):307ra152.
  6. Sokolowska M, Frei R, Lunjani N, Akdis CA, O’Mahony L. Microbiome and asthma. Asthma Res Pract. 2018;4:1.

 

ขอขอบคุณ สมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย
https://www.facebook.com/thaiasthmacouncil 

 

 

 

PDPA Icon

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก