รศ. พญ. สิริภา ช้างศิริกุลชัย
สาขาวิชาโรคไต ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
บทนำ
การล้างไตทางช่องท้องแบบอัตโนมัติ (Automated Peritoneal Dialysis; APD) มีลักษณะที่แตกต่างจากการล้างไตทางช่องท้องทั่วไปคือ เป็นรูปแบบของการล้างไตทางช่องท้องที่ใช้เครื่องช่วยทำการแลกเปลี่ยนของน้ำยาล้างไตโดยอัตโนมัติ (APD machine) ส่วนใหญ่จะทำในเวลากลางคืน ทำให้มีข้อดีคือ มีเวลาว่างในช่วงวันจากการที่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำยา ลดจำนวนครั้งในการเปลี่ยนถ่ายน้ำยา ส่งผลให้ลดภาระงานในการเปลี่ยนถ่ายน้ำยา และสามารถเพิ่มปริมาตรของน้ำยาในช่องท้องเนื่องจากเป็นการล้างไตที่อยู่ในท่านอน ซึ่งเป็นท่าที่แรงดันในช่องท้องน้อยกว่าท่ายืนและท่านั่ง APD ถูกเลือกใช้อย่างแพร่หลายในต่างประเทศ สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต นอกจากนี้ การล้างไตทางช่องท้องด้วยเครื่อง ยังมีการพัฒนาตัวเครื่องให้สามารถช่วยในการติดตามผู้ป่วยได้ดีด้วยระบบทางไกล (remote monitoring) หรือการทบทวนจากการ์ดหน่วยความจำในเครื่องได้ บทความนี้จะกล่าวถึงองค์ความรู้และผลลัพธ์ทางคลินิกที่เกี่ยวข้องกับ APD
หลักการและเทคนิคของการล้างไตทางช่องท้องแบบอัตโนมัติ
- Nightly intermittent peritoneal dialysis (NIPD): หมายถึง การล้างไตทางช่องท้องแบบอัตโนมัติที่ทำเฉพาะในเวลากลางคืน โดยมีการเติมและระบายน้ำยาล้างไตในช่องท้องอย่างสมบูรณ์ในแต่ละรอบ
- Nightly tidal peritoneal dialysis (NTPD): เป็นรูปแบบการล้างไตทางช่องท้องแบบอัตโนมัติที่ดำเนินการเฉพาะในเวลากลางคืนเช่นกัน แต่จะมีการระบายและเติมน้ำยาเพียงบางส่วนในแต่ละรอบ (tidal volume) โดยจะเหลือน้ำยาบางส่วนไว้ในช่องท้องตลอดการรักษา
- Continuous cycling peritoneal dialysis (CCPD): เป็นการล้างไตทางช่องท้องแบบอัตโนมัติในเวลากลางคืน ร่วมกับการใส่น้ำยาไว้ในช่องท้องระหว่างวันเพิ่มเติมอีก 1 ครั้ง หรือ 2 ครั้ง
- Continuous tidal peritoneal dialysis (CTPD): เป็นการล้างไตทางช่องท้องแบบอัตโนมัติในเวลากลางคืนโดยใช้เทคนิค tidal dialysis ร่วมกับการใส่น้ำยาไว้ในช่องท้องช่วงกลางวันเพิ่มเติม 1 ครั้ง หรือ 2 ครั้ง
- Intermittent peritoneal dialysis (IPD): หมายถึง การสั่งให้ผู้ป่วยได้รับการล้างไตทางช่องท้องแบบอัตโนมัติรวมระยะเวลาทั้งสิ้นประมาณ 24 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยแบ่งเป็นอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งอาจมีหรือไม่มีช่วงพักให้น้ำยาแช่ในแต่ละรอบก็ได้ ขึ้นกับการออกแบบการรักษา
ผลลัพธ์ทางคลินิกที่เกี่ยวข้องกับ APD
- อัตราการเสียชีวิตผู้ป่วย จากหลักฐานการศึกษาทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบร่วมกับการวิเคราะห์อภิมาน (Systematic Review and Meta-analysis) ที่รวบรวม 17 การศึกษา จำนวนผู้ป่วย 230,000 ราย เปรียบเทียบอัตราการเสียชีวิตระหว่างการล้างไตทางช่องท้องแบบ CAPD (continuous ambulatory peritoneal dialysis) และ APD ในผู้ป่วยที่อายุเกิน 18 ปี และทำการล้างไตทางช่องท้องเกิน 3 เดือน พบว่า อัตราการตายจากทุกสาเหตุ (all-cause mortality) ในกลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วย APD ต่ำกว่ากลุ่ม CAPD อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนอัตราการล้มเหลวของเทคนิคการล้างไตทางช่องท้องไม่แตกต่างกันระหว่าง APD และ CAPD(1) การศึกษาที่ดำเนินการในสถานพยาบาลแห่งเดียวในประเทศฟินแลนด์ เปรียบเทียบการรอดชีพระหว่างการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมที่บ้าน (home hemodialysis) และการทำ APD พบว่าไม่ต่างกัน(2)
- การติดเชื้อเยื่อบุช่องท้อง จากการศึกษา พบว่า ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบการล้างไตทางช่องท้องกับระยะเวลาจนถึงการเกิดภาวะเยื่อบุช่องท้องอักเสบครั้งแรกและไม่มีความแตกต่างกันในการรับรักษาในโรงพยาบาล แต่การทำ APD จะมีอัตราการเพาะเชื้อเป็นลบต่ำกว่า(3) แต่มีการศึกษาจากสถานพยาบาล 3 แห่งในประเทศญี่ปุ่น พบว่า การทำ APD มีอัตราการติดเชื้อต่ำกว่า CAPD(4)
- การรักษาหน้าที่ของไตเดิม (residual kidney function; RKF) พบว่า ไม่มีความแตกต่างกันในอัตราการลดลงของหน้าที่ไตเดิม แต่มีข้อควรระวังในการทำ APD คือ ในกรณีที่น้ำยาค้างในช่องท้องระยะเวลาสั้น มีจำนวนรอบมากเกินไป จะทำให้ร่างกายขาดน้ำ ส่งผลให้อัตราการลดลงของหน้าที่ไตเดิมเร็วขึ้น(5)
- คุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ได้มีการศึกษาในประเทศไทย เปรียบเทียบคุณภาพชีวิตผู้ป่วย APD และ CAPD
- พบว่า ผู้ดูแลผู้ป่วย APD มีอายุมากกว่า แต่ผู้ดูแลผู้ป่วย CAPD จะมีการใช้เวลาในการทำ PD มากกว่า อย่างไรก็ตาม ไม่มีความแตกต่างในคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและผู้ดูแลผู้ป่วย(6)
ข้อดีและข้อจำกัดในการเลือกใช้ APD
- ผู้ป่วยที่ต้องการเวลายืดหยุ่นสำหรับการล้างไต ได้แก่ ผู้ป่วยที่ทำงาน เรียนหนังสือ หรือมีกิจกรรมในช่วงเวลากลางวัน
- ผู้ป่วยที่มีโรคส่งผลต่อการเพิ่มแรงดันในช่องท้อง เช่น ถุงน้ำในไต ภาวะอ้วน เป็นต้น เนื่องจากการทำ APD ในท่านอนทำให้แรงดันในช่องท้องลดน้อยกว่าท่ายืนหรือท่านั่ง
- ผู้ป่วยที่ผนังช่องท้องมีการแลกเปลี่ยนเร็ว (fast transporter) เนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีการดูดซึมน้ำตาลเข้ากระแสเลือดจากน้ำยาได้เร็ว ทำให้การขับน้ำในร่างกายลดลงจากการที่มี ultrafiltrate ลดลงในการณีที่น้ำยาค้างในช่องท้องนาน การลดระยะเวลาที่น้ำยาค้างในช่องท้อง (short dwell time) และเพิ่มจำนวนรอบจะทำให้มีการขจัดน้ำออกจากร่างกายได้ดีกว่า
- ผู้ป่วยเด็ก เนื่องจากการทำ APD ทำให้ควบคุมปริมาตรได้ดีและแม่นยำในเด็กเล็ก
- ลดภาระในผู้ป่วยที่ต้องการผู้ดูแล (caregiver) ที่มีกิจวัตรประจำวัน โดยเฉพาะในเวลากลางวัน
ข้อจำกัดของ APD
- การเกิด sodium sieving ในกรณีที่ตั้งจำนวนรอบถี่เกินไป และมีระยะเวลาที่น้ำยาค้างในช่องท้องสั้น ซึ่งเกิดจากการที่น้ำเคลื่อนผ่านเยื่อบุช่องท้องรวดเร็วผ่านทาง aquaporin-1 (free water transport) โดยไม่พาโซเดียมติดมาด้วย ทำให้เกิดความเข้มข้นโซเดียมในพลาสมาสูง ส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดการกระหายน้ำได้
- การกำจัดฟอสเฟตลดลงกว่าการทำ CAPD ส่งผลให้ผู้ป่วยทำ APD ต้องควบคุมอาหารฟอสเฟตสูงมากขึ้น และอาจต้องเพิ่มยาจับกับฟอสเฟต
- ในกรณีผู้ป่วยไม่มีหน้าที่ไตของเดิม การทำ NIPD อาจไม่เพียงพอต่อการขจัดของเสีย อาจต้องปรับไปเป็นการทำ CCPD
- อาจมีผลต่อการนอนหลับของผู้ป่วย เนื่องจากมีเสียงร้องเตือน หรือผู้ป่วยมีความกังวลเกี่ยวกับการทำงานของเครื่อง
- ต้องมีไฟฟ้าคงที่ ไม่เหมาะในพื้นที่ที่กระแสไฟฟ้าไม่เสถียร
- ผู้ป่วยหรือผู้ดูแล ต้องมีทักษะในการดูแลเครื่อง จึงควรผ่านการอบรม
สรุป
APD เป็นหนึ่งในรูปแบบของการบำบัดทดแทนไตที่ใช้เครื่องจักรช่วยควบคุมการแลกเปลี่ยนน้ำยาในเวลากลางคืน ขณะที่ผู้ป่วยนอนหลับ โดยมีรูปแบบย่อยหลายประเภท การทำ APD มีทั้งข้อดีและข้อจำกัด ดังนั้น ควรให้คำแนะนำและคัดเลือกผู้ป่วยให้เหมาะสม
- Luo PT, Li W, Li XY, Zhang Y, Du B, Cui WP. Impact of peritoneal dialysis modality on patient and PD survival: A systematic review. Perit Dial Int. 2023;43:128-38.
- Bitar W, Helve J, Honkanen E, Rauta V, Haapio M, Finne P. Similar survival on home haemodialysis and automated peritoneal dialysis: an inception cohort study. Nephrol Dial Transplant. 2022;37:1545-51.
- Lan PG, Johnson DW, McDonald SP, Boudville N, Borlace M, Badve SV, et al. The association between peritoneal dialysis modality and peritonitis. Clin J Am Soc Nephrol. 2014;9:1091-7.
- Kokubu M, Matsui M, Uemura T, Morimoto K, Eriguchi M, Samejima K, et al. Relationship between initial peritoneal dialysis modality and risk of peritonitis. Sci Rep. 2020;10:18763.
- Bieber SD, Burkart J, Golper TA, Teitelbaum I, Mehrotra R. Comparative outcomes between continuous ambulatory and automated peritoneal dialysis: a narrative review. Am J Kidney Dis. 2014;63:1027-37.
- Thaweethamcharoen T, Noparatayaporn P, Sritippayawan S, Aiyasanon N. Kidney Disease-Specific Scores and Health Utility of Continuous Ambulatory Peritoneal Dialysis and Automated Peritoneal Dialysis Patients and Their Caregivers. Value Health Reg Issues. 2020;21:194-200.