ผลการศึกษาของคลีฟแลนด์คลินิก แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์พ่นจมูกเป็นประจำ เมื่อติดเชื้อ COVID-19 แล้ว มีโอกาสเจ็บป่วยรุนแรงต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล น้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้ยาประมาณ 22%
ในการศึกษานี้ ผู้ทำการศึกษาได้คัดเลือกผู้ป่วยที่ติดเชื้อ COVID-19 ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 72,147 คน ช่วงเดือนเมษายน 2563 ถึงเดือนมีนาคม 2564 พบว่า ผู้ป่วยที่ใช้ยาสเตียรอยด์พ่นจมูกก่อนติดเชื้อ COVID-19 มีแนวโน้มที่จะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก ประมาณ 22% และมีแนวโน้มที่จะเข้ารับการรักษาใน ICU น้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้ยาถึง 23% และยังมีโอกาสเสียชีวิตขณะรักษาตัวที่โรงพยาบาลน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้ยาถึง 24%
โดยผู้ป่วยจากการศึกษาประมาณ 17.5% เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 4.1% เข้ารับการรักษาใน ICU และ 2.6% เสียชีวิตระหว่างการรักษาในโรงพยาบาล ในจำนวนนี้พบว่า 14.1% ได้รับยาสเตียรอยด์พ่นจมูกก่อนการติดเชื้อ COVID-19
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่า จมูกเป็นประตูสู่ร่างกายของเรา และเป็นช่องทางที่เชื้อ COVID-19 จะเข้าสู่ร่างกายและเพิ่มจำนวนโดยเฉพาะที่ปอด การใช้ยาสเตียรอยด์พ่นจมูกอาจช่วยขัดขวางการเข้าออกของเชื้อ COVID-19 ได้ นอกจากนี้ ผลการศึกษายังชี้ให้เห็นว่า ยาสเตียรอยด์พ่นจมูกลดตัวรับ ACE2 ที่มีอยู่มากที่สุดในเยื่อบุจมูก ซึ่งตัวรับนี้ จะช่วยให้ไวรัส SARS-CoV-2 เข้าสู่เซลล์ และแพร่กระจายตัวได้ ดังนั้น การกดตัวรับ ACE2 จึงอาจมีผลต้านการติดเชื้อ COVID-19 ได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลาย ๆ เรื่องที่ยังต้องศึกษาเพิ่มเติมต่อไป
โดยผลการศึกษานี้ มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยหากผู้ป่วย COVID-19 ที่มีอาการรุนแรงถึงต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และเสียชีวิตมีจำนวนลดลง จะสามารถบรรเทาความตึงเครียดในระบบการดูแลสุขภาพที่มีทรัพยากรจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกำลังพัฒนาที่มีการเข้าถึงวัคซีนได้อย่างจำกัด และมีการกลายพันธุ์ของเชื้อเกิดขึ้น
ข้อมูลจาก www.pharmacytimes.com