งานวิจัยพบว่า การได้รับฮอร์โมนเพศชายทดแทน ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ในรายที่มีความเสี่ยงต่อมะเร็งต่อมลูกหมากก่อนได้ฮอร์โมนทดแทนต่ำ
ความสัมพันธ์ระหว่างการได้รับฮอร์โมนเพศชาย testosterone กับความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ยังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจน แต่การใช้ฮอร์โมนเพศชายมีข้อบ่งชี้ชัดเจนในการรักษาภาวะขาดฮอร์โมนเพศชาย และจากการศึกษาขนาดใหญ่อย่างการศึกษาที่มีชื่อว่า The Testosterone Replacement Therapy for Assessment of Long-Term Vascular Events and Efficacy Response in Hypogonadal Men (TRAVERSE) ทำให้มีข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ testosterone กับผลต่อต่อมลูกหมากมากขึ้น
ShalenderBhasin และคณะ จากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาผลของการได้ฮอร์โมนเพศชายทดแทนต่อการเกิดผลแทรกซ้อนของระบบสืบพันธุ์ชาย เช่น การเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก การเกิดภาวะปัสสาวะไม่ออกเฉียบพลัน มีบุรุษที่ได้รับการวินิจฉัยภาวะขาดฮอร์โมนเพศชาย จากอาการร่วมกับระดับฮอร์โมนเพศชาย testosterone ต่ำกว่า 300 นก./ดล. รวม 2 ครั้ง โดยตัดผู้ที่มี prostate-specific antigen (PSA) มากกว่า 3 นก./มล. และผู้ที่มีคะแนน International Prostate Symptom Score (IPSS) มากกว่า 19 ออกไป โดยมีผู้เข้าร่วมงานวิจัยอายุตั้งแต่ 45 – 80 ปี จำนวน 5,246 ราย จาก 316 ศูนย์ในประเทศสหรัฐอเมริกา แบ่งเป็นกลุ่มโดยสุ่มเป็นกลุ่มที่ได้รับฮอร์โมนเพศชาย ในรูปแบบเจลสำหรับทา 1.62% testosterone ทดแทนกับกลุ่มที่ได้เจลยาหลอก และติดตามไปยาวนานเกือบ 2 ปี ผลพบว่า ในทั้งหมด 14,304 ราย-ปี ที่ได้รับการติดตาม มีอุบัติการณ์การเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากแบบ high-grade จำนวน 5 ราย จาก 2,596 ราย ในกลุ่มที่ได้รับฮอร์โมนเพศชายทดแทน หรือ 0.19% ส่วนกลุ่มยาหลอกมี 3 ราย จาก 2,602 ราย ที่เกิดมะเร็งต่อมลูกหมากแบบ high-grade หรือ 0.12% ซึ่งแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญ รวมถึงการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากโดยรวม การเกิดภาวะปัสสาวะไม่ออกเฉียบพลัน การต้องการผ่าตัด หรือตัดชิ้นเนื้อ หรือแม้แต่การปรับยาเพื่อรักษาอาการทางต่อมลูกหมากเพิ่มขึ้นก็ไม่แตกต่างกัน และการเปลี่ยนแปลงของคะแนน IPSS ก็ไม่แตกต่างกัน แต่ระดับ PSA ในกลุ่มที่ได้ฮอร์โมนเพศชายทดแทนสูงกว่ากลุ่มที่ได้ยาหลอก
การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า ผู้ชายตั้งแต่วัยกลางคนขึ้นไปที่ไม่ได้มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งต่อมลูกหมากก่อนได้รับฮอร์โมนเพศชายทดแทนเพื่อรักษาภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ มีอุบัติการณ์การเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากหลังได้รับฮอร์โมนไม่แตกต่างกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก
เรียบเรียงโดย พญ. นิษฐา ปรุงวิทยา
ข้อมูลจาก https://jamanetwork.com/journals/jamanetworkopen/fullarticle/2813293
