มหิดล เผยข้อมูลทีมวิจัย Imperial College London วิเคราะห์ประสิทธิภาพของวัคซีนโควิด 19 กรณีป้องกันการเสียชีวิต พบข้อมูลช่วยเซฟชีวิตคนทั่วโลก และคนไทยได้มากถึง 4.9 แสนคน
18 ก.ค. 65 รศ.ดร. ชรินทร์ โหมดชัง คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และผู้เชี่ยวชาญด้าน Mathematic Modeling สำหรับโรคติดต่อ เปิดเผยถึงประสิทธิภาพงานวิจัยวัคซีนป้องกันโควิด19 กรณีป้องกันการเสียชีวิต ที่ทำการศึกษาและเป็นผลงานตีพิมพ์จากกลุ่มวิจัย Imperial College London ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยใหญ่ที่ทำวิเคราะห์ข้อมูลการระบาด โดยได้วิเคราะห์ข้อมูลตั้งแต่เริ่มฉีดวัคซีนโควิด 1 ปีที่ผ่านมา เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.2563- 8 ธ.ค.2564 ใน 185 ประเทศทั่วโลก พบว่า วัคซีนสามารถช่วยชีวิตคนได้ถึง 19.8 ล้านคน
ข้อมูลเฉพาะประเทศไทย พบว่า สามารถเซฟชีวิตคนได้ถึง 382,600 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 9 ธ.ค. 2564) และหลังจากประเทศไทยเจอการระบาดหนักจากไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 BA.4 และ BA.5 ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทางกรมควบคุมโรคจึงประสานทีมวิจัยให้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลของไทยต่อจนถึงวันที่ 3 ก.ค.2565 พบว่า สามารถช่วยรักษาชีวิตจากโควิด 19 ได้เพิ่มอีกประมาณ 107,400 คน ซึ่งถ้าหากนับรวมข้อมูลจากทีมวิจัยของลอนดอนก่อนหน้านี้ วัคซีนป้องกันโควิดสามารถช่วยชีวิตคนในประเทศไทยแล้วกว่า 490,000 คน
สำหรับข้อมูลการฉีดวัคซีนที่มีการใช้ในประเทศไทยไม่ได้วิเคราะห์แยกว่าวัคซีนชนิดไหนป้องกันการเสียชีวิต ต้องฉีดกี่เข็ม เข็ม 1 เข็ม 2 หรือบูสเตอร์จะเซฟชีวิตได้มาก เนื่องจากมีตัวเลขงานวิจัยเรื่อยๆว่า ประสิทธิภาพป้องกันเสียชีวิตหลังเข็ม 1 เข็ม 2 หรือกระตุ้น จากวัคซีนแต่ละชนิดเป็นอย่างไร ซึ่งความเป็นจริงวัคซีนแต่ละชนิดในการป้องกันเสียชีวิตไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เพียงแต่การฉีดวัคซีนแต่ละชนิดจะแตกต่างกันตามช่วงเวลาของสายพันธุ์ ไม่ว่ายี่ห้อใดสามารถป้องกันการเสียชีวิตได้
ข้อมูลจาก: https://www.hfocus.org/content/2022/07/25533