กรมควบคุมโรค เผยแพร่แนวทางการให้ Long acting antibody (LAAB) ในกลุ่มภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ หรือกลุ่มที่ได้รับวัคซีน แต่ไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้สูงเพียงพอต่อการป้องกันโรค เพื่อลดความรุนแรงของการเจ็บป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคโควิด 19
1 ก.ค. 65 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เผยแพร่เอกสารแนวทางการให้ Long Acting Antibody (LAAB) ในประเทศไทย ซึ่งได้จากมติที่ประชุมพิจารณาแนวทางการใช้ LAAB สำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องกลุ่มต่างๆ ในประเทศไทย ระหว่างผู้แทนจาก สธ. สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย เครือข่ายโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทย์ศาสตร์แห่งประเทศไทย (UhosNet)
สำหรับ LAAB คือ แอนติบอดีออกฤทธิ์ยาวที่ประกอบด้วยแอนติบอดีสองชนิด ได้แก่ Tixagevimab และ Cilgavimab ซึ่งพัฒนามาจากบีเซลล์ของผู้ที่เคยติดเชื้อไวรัสโควิด 19 และได้พัฒนาเพิ่มเติมเพื่อขยายระยะเวลาครึ่งชีวิตให้ยาวนานกว่าแอนติบอดีทั่วไปอย่างน้อย 3 เท่า โดยมีหลักฐานยืนยันว่าสามารถออกฤทธิ์ลบล้างเชื้อไวรัสโควิด 19ได้ทั้งต่อสายพันธุ์ดั้งเดิม และสายพันธุ์กลายพันธุ์ต่างๆ
อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนในยุโรป และได้รับการขึ้นทะเบียนให้นำมาใช้ฉุกเฉินในประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะเดียวกันประเทศไทย โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้อนุมัติขึ้นทะเบียนยาภายใต้การอนุญาตแบบมีเงื่อนไขในสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2565 สำหรับใช้เพื่อการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อโควิด 19 ในกลุ่มผู้ใหญ่และวัยรุ่นที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป และมีน้ำหนักตัวมากกว่า 40 กิโลกรัม ทั้งผู้ที่เคยได้รับวัคซีนและไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน
อ่านเอกสารฉบับเต็มได้ที่ : https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/1294120220722013551.pdf