กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยแพร่แนวทางให้บริการวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้น สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้เพียงพอ ป้องกันอาการป่วยรุนแรงโดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน
10 ส.ค. 65 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยแพร่แนวทางให้บริการวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้น สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี จากมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ครั้งที่ 5/2565 วันที่ 2 สิงหาคม 2565 และที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ครั้งที่ 476 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2565 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันในกลุ่มเป้าหมายในสูงเพียงพอต่อการป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง และการระบาดของโรคโควิด 19 ในเด็ก ในเด็กอายุ 5-11ปี
โดยนโยบายการให้วัคซีนโควิด 19 ได้เริ่มตั้งแต่เดือนก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งจากผลการศึกษาระดับภูมิคุ้มกันในเด็กที่ได้รับวัคซีนพบว่า ไม่ว่าจะฉีดด้วยสูตรไขว้วัคซีน Sinovac กับวัคซีน Pfizer หรือวัคซีน Pfizer 2 เข็ม สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูง แต่ระดับภูมิคุ้มกันลดต่ำลงภายหลังได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 เป็นระยะเวลา 3 เดือนขึ้นไป ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อการป้องกันโรคโดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน และเมื่อฉีดกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 จะทำให้ระดับภูมิคุ้มกันสูงขึ้นมาก และป้องกันสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์ได้ดีขึ้น โดยจากการศึกษาเปรียบเทียบในผู้ใหญ่พบว่า วัคซีนชนิด Pfizer กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูงกว่าวัคซีนเชื้อตาย ซึ่งมีอัตราการเกิดอาการข้างเคียงมากกว่าวัคซีนเชื้อตาย แต่ไม่รุนแรง อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นทุกชนิดสามารถลดความรุนแรงของโรคได้ดี
ทั้งนี้ สำหรับแนวทางการให้วัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้นในเด็กอายุ 5 -11 ปี ได้ระบุถึงการพิจารณาการให้วัคซีนทั้งกรณีที่เคยมีประวัติติดเชื้อและยังไม่เคยติดเชื้อมาก่อน แผนบริหารจัดการวัคซีนโควิด 19 ระยะเวลาดำเนินการ พื้นที่ดำเนินการ ฯลฯ เป็นต้น
อ่านเอกสารฉบับเต็มได้ที่นี่:
