สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เผย มูลนิธิ-วัด ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการที่รับการส่งต่อเฉพาะด้านสถานชีวาภิบาลในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติแล้ว 8 แห่ง อยู่ระหว่างรอขึ้นทะเบียนเพิ่มเติม 25 แห่ง สอดคล้องนโยบายการจัดตั้งสถานชีวาภิบาลเพื่อดูแลผู้ป่วยติดเตียงและผู้ป่วยระยะสุดท้าย พร้อมชวนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศร่วมมือผลักดัน
รศ.ภญ.ดร.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการ สปสช. เผยข้อมูลการดำเนินการจัดตั้งหน่วยบริการที่รับการส่งต่อเฉพาะด้านสถานชีวาภิบาล ตามมาตรา 3 แห่ง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ปีงบฯ 2567 ขึ้นทะเบียนแล้ว 8 แห่ง ได้แก่ (1) มูลนิธิคามิลเลียน โซเชียล เซนเตอร์ ปราจีนบุรี (2) บ้านพักผู้สูงอายุ เบธานี ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ หรือผู้มีภาวะพึ่งพิง ต.สวนกล้วย อ.บ้างโป่ง จ.ราชบุรี (3) ศูนย์สันติภาวัน ต.ทรายขาว อ.สอยดาว จ.จันทบุรี (4) วัดหนองกระดูกเนื้อ ต.หนองนมวัว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ (5) วัดพระบาทน้ำพุ ต.เขาสามยอด อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี (6) วัดคำประมง ต.สว่าง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร (7) วัดห้วงหิน ต.บ้านนา อ.แกลง จ.ระยอง และ (8) วัดทับคล้อ ต.ทับคล้อ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร และรอดำเนินการขึ้นทะเบียนอีก 25 แห่ง
รศ.ภญ.ดร.ยุพดี กล่าวว่า การจัดตั้งสถานชีวาภิบาลเป็นประโยชน์อย่างมาก ช่วยให้ อปท. มีงบประมาณสนับสนุนให้การดูแลชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงรวมถึงผู้ป่วยระยะสุดท้าย ร่วมกับชุมชน องค์กรศาสนา องค์กรภาคประชาชนในพื้นที่ กระทรวงสาธารณสุข และสปสช. ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วยและครอบครัว จึงเชิญชวนให้ อปท. ทั่วประเทศร่วมกันสนับสนุนและผลักดันนโยบายนี้ด้วย
แหล่งที่มา: https://www.thecoverage.info/news/content/7128