วัยรุ่นติดโรคเพิ่มขึ้น 3 เท่า โดยเฉพาะโรคซิฟิลิส เหตุไม่ใช้ถุงยางอนามัย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) เผยในงานประชุมสุขภาวะทางเพศระดับชาติ ครั้งที่ 4 ภายใต้แนวคิด “Strong Community for Healthy Sexuality: ชุมชนเข้มแข็งสร้างสุขภาวะทางเพศ” แนวโน้มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สูงขึ้นในกลุ่มวัยรุ่น โดยเฉพาะโรคซิฟิลิส ปี 2566 ผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 3 เท่า จากปี 2561

14 สิงหาคม พ.ศ. 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สธ. และรองประธานกองทุน สสส. คนที่ 1 เผยสถานการณ์การติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มวัยรุ่นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรคซิฟิลิส เพิ่มขึ้นจาก 27.9 ต่อประชากรแสนคนในปี 2561 เป็น 91.2 ต่อประชากรแสนคนในปี 2566 ในงานประชุมสุขภาวะทางเพศระดับชาติ ครั้งที่ 4 ภายใต้แนวคิดชุมชนเข้มแข็งสร้างสุขภาวะทางเพศ ซึ่งจัดขึ้นโดยความร่วมมือของ สสส. คณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ศธ. สธ. พม. รง. มท. อว. มูลนิธิเพธทูเฮลท์ และภาคีเครือข่าย มีผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมกว่า 1,000 คน

สถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของกลุ่มวัยรุ่น สอดคล้องกับพฤติกรรมไม่ใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ ความเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวีก็เพิ่มขึ้น ผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 9 พันคนในปี 2565 ซึ่งเกือบครึ่งหนึ่งเป็นเยาวชน นายสมศักดิ์เสริมว่า โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคเอดส์ การยุติการตั้งครรภ์ ความรุนแรงทางเพศ และการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นเป็นปัญหาสำคัญระดับโลก การประชุมครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วน แก้ไขปัญหาสุขภาวะทางเพศระดับชุมชน ทั้งนี้ คณะกรรมการป้องกันฯ ตั้งเป้าหมายลดอัตราการคลอดของวัยรุ่นไม่เกิน 15 ต่อประชากรหญิง อายุ 15 – 19 ปี 1,000 คน ภายในปี 2570  

แหล่งที่มา: https://www.hfocus.org/content/2024/08/31363