นพ. วรมันต์ ไวดาบ
หัวหน้ากลุ่มงานกุมารเวชกรรม
โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์
สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร
สรุปเนื้อหางานประชุมวิชาการ 9th PED ID CHULA 2025 ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2568
หลักการสำคัญในการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไข้ออกผื่น ประกอบด้วย
- การแยกผู้ป่วย (Isolation) และใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (personal protective equipment, PPE) การแยกผู้ป่วยควรทำโดยเร็วที่สุดโดยไม่จำเป็นต้องรอการยืนยันผลการวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการแต่ใช้อาการทางคลินิก (syndromic and empiric isolation precautions) รวมถึงการใช้ PPE ที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายเชื้อไปยังบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยรายอื่น
- การวินิจฉัยโรคโดยเร็ว (Early diagnosis) ประกอบด้วย
- ประวัติและตรวจร่างกาย อายุ ประวัติการสัมผัสโรค ประวัติการรับวัคซีน ลักษณะและการกระจายของผื่น อาการร่วมอื่น ๆ
- การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ได้แก่ การตรวจภูมิคุ้มกันจากน้ำเหลือง (serology) และการตรวจทางชีวโมเลกุล (molecular diagnosis) เช่น การตรวจ PCR การส่งตรวจขึ้นอยู่กับเชื้อก่อโรคและช่วงเวลาส่งตรวจ การตรวจทางชีวโมเลกุลแนะนำตรวจในวันแรก ๆ ขณะที่การตรวจภูมิคุ้มกันแนะนำตรวจในวันหลัง ๆ ของการป่วย
- การประเมินความเสี่ยงของผู้สัมผัสโรค (Risk assessment) เพื่อพิจารณาการป้องกันหลังการสัมผัส (PEP) โดยการให้วัคซีน อิมมูโนโกลบูลิน หรือให้ยาป้องกัน ปัจจัยที่ใช้พิจารณาการให้ PEP ได้แก่ การสัมผัสโดยไม่ได้สวม PPE ที่เหมาะสม อายุ สถานะภูมิคุ้มกันของผู้สัมผัส ระยะเวลาของการสัมผัส
- การทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมและการจัดการระบบอากาศ พิจารณาให้เหมาะสมกับชนิดของเชื้อก่อโรค เช่น โรคมือ-เท้า-ปาก ควรใช้น้ำและสบู่หลีกเลี่ยงการใช้แอลกอฮอล์ การใช้ห้องความดันลบในผู้ป่วยโรคหัด เป็นต้น
- การรายงานและการเฝ้าระวังโรค ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้มีการดำเนินการควบคุมโรคโดยเร็ว ป้องกันการระบาดของโรค