CIMjournal
banner monkeypox

Mpox and differential diagnosis of skin lesions


พญ. ศรีศุภลักษณ์ สิงคาลวณิชศ. คลินิก พิเศษ พญ. ศรีศุภลักษณ์ สิงคาลวณิช
สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี

 

สรุปเนื้อหางานประชุมใหญ่ประจำปี 2568 ครั้งที่ 29 จัดโดย สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย วันที่ 4 พฤษภาคม 2568

 

โรค Mpox เป็นโรคติดเชื้อที่พบไม่บ่อยในเด็ก ลักษณะทางผิวหนังที่จำเพาะ ได้แก่ ผื่น (rash) เริ่มจาก macules ต่อมากลายเป็น papules, vesicles, deep-seated pustules or pseudopustules และกลายเป็น central umbilication เมื่อรอยโรคหายจะตกสะเก็ด (scab) โดยผื่นจะพบที่ใบหน้าและลามไปที่แขนขา รวมทั้งฝ่ามือฝ่าเท้า (centrifugal) และผื่นพบระยะเดียวกันหมด ในเด็กโตหรือวัยรุ่นจะพบผื่นที่อวัยวะเพศ โรค Mpox มักพบอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต ปวดกล้ามเนื้อ เป็นต้น ซึ่งใช้ในการแยกจากโรคอื่น ๆ

เนื่องจาก Mpox เป็นโรคที่พบไม่บ่อย จำเป็นต้องแยกจากโรคผิวหนังอื่น ๆ ที่มีผื่นคล้ายกัน ได้แก่ ในรายที่มีผื่นกระจายทั่วตัวต้องแยกจากโรคติดเชื้ออื่น ๆ

1. การติดเชื้อที่ผิวหนังทั่วไปและรอยโรคอวัยวะเพศ ได้แก่

  1. Chickenpox หรือ varicella ลักษณะผื่นเป็น macules, dew drop vesicles, pustules, crusts ผื่นพบหลายระยะใน anatomical area เดียวกัน การกระจายบริเวณลำตัว (centripetal) อาจพบไข้ต่ำ ๆ และพบรอยโรคในปากได้ แต่ไม่พบต่อมน้ำเหลืองโต ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของ Mpox อาจพบประวัติคนใกล้เคียงมีผื่นเหมือนกัน การตรวจทางห้องปฏิบัติการเบื้องต้นที่ช่วยในการวินิจฉัย ได้แก่ Tzanck smear จะพบ multinucleated giant cells
  2. Molluscum contagiosum เป็นโรคติดเชื้อที่พบบ่อยในเด็ก เกิดจากการติดเชื้อ pox virus ลักษณะผื่นเป็น single หรือ multiple skin-colored papules และพบ central umbilication การกระจายมักพบตามลำตัว รักแร้ ไม่พบที่ฝ่ามือฝ่าเท้า ไม่มีอาการคัน ไม่มีไข้ หรือ systemic symptoms ถ้าสะกิดตุ่มออกจะพบลักษณะสีขาวคล้ายข้าวสุก ในผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันบกพร่องต้องแยกจากการติดเชื้อรา histoplasmosis, cryptococcosis หรือ Talaromyces marneffei
  3. Hand-foot-and mouth disease ในรายที่ typical ลักษณะผิวหนังจะพบเป็น vesicles on crythematous base ที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ผู้ป่วยจะมีไข้ต่ำ ๆ อาจพบแผลในปากร่วมด้วย แต่รายที่ atypical ซึ่งเกิดจาก Coxsackievirus A6 อาจพบมีไข้สูง พบรอยโรคที่รอบปาก หลังมือหลังเท้า และบริเวณลำตัวได้ ซึ่งต้องแยกจาก varicella และ herpes infection
  4. Herpes zoster ลักษณะผิวหนังพบเป็น group of vesicles กระจายตามแนวเส้นประสาท (dermatome) ใน
    ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง อาการจะรุนแรงเป็นหลาย dermatome ได้
  5. scabies ลักษณะผิวหนังพบเป็น papules, vesicles, nodules, crust และ burrow บริเวณลำตัว รักแร้ ง่ามมือ และอวัยวะเพศ ในเด็กเล็กจะพบผื่นที่หน้าหรือศีรษะร่วมด้วย  ผู้ป่วยจะคันมากโดยเฉพาะเวลากลางคืน และมีประวัติคนใกล้ชิดมีอาการคันมากเช่นกัน ไม่พบอาการทาง systemic เช่น ไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต ถ้าขูดผิวหนังบริเวณ burrow จะพบ larva, eggs หรือ feces ของตัวหิด
  6. Impetigo ลักษณะเป็น vesicles หรือ pustules และแตกออกเป็น honey-colored crust ซึ่งต้องแยกกับ Mpox ระยะ crust stage การตรวจทางห้องปฏิบัติการที่ช่วยในการวินิจฉัย คือ การเพาะเชื้อแบคทีเรียพบเชื้อ S.aureus
    รอยโรคอวัยวะเพศ
  7. Herpes infection ลักษณะเป็นตุ่มใสหรือแผลตื้น ๆ มีอาการเจ็บ อาจพบมีไข้ร่วมด้วย การตรวจทางห้องปฏิบัติการเบื้องต้นที่ช่วยในการวินิจฉัย ได้แก่ Tzanck smear จะพบ multinucleated giant cells การตรวจที่แน่นอนคือ PCR for herpes infection จากรอยโรคที่ผิวหนัง
  8. Primary syphilis ลักษณะเป็นแผลตื้น ๆ อันเดียว ไม่เจ็บ บริเวณ penis หรือ vulva มักพบต่อมน้ำเหลืองโตร่วมด้วย ในรายสงสัยต้องตรวจ VDRL เพื่อยืนยันการวินิจฉัย
  9. Chancroid เกิดจากการติดเชื้อ Haemophilus ducreyi ลักษณะเป็นแผลอันเดียวหรือหลายอัน มีอาการเจ็บ ขอบขรุขระร่วมกับต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบโต

2. โรคผิวหนังชนิดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่การติดเชื้อ

  1. Insect bite reaction ลักษณะเป็นตุ่มแดงร่วมกับมี central punctum ร่วมกับอาการคัน พบบริเวณนอกร่มผ้า อาจพบการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนได้
  2. Cutaneous drug eruption ผื่นแพ้ยาที่พบบ่อย ได้แก่ maculopapular rash ลักษณะเป็น macule และ papules บริเวณหน้า ลำตัว แขนขา อาจพบที่ฝ่ามือฝ่าเท้า ร่วมกับอาการคัน การวินิจฉัย อาศัยประวัติการได้รับยา เช่น ยาปฏิชีวนะหรือยากันชัก ลักษณะผื่นต้องแยกโรคจากการติดเชื้อไวรัสและโรคอื่น ๆ ที่มีอาการคล้ายกัน
  3. Pityriasis lichenoides acuta เป็นโรคผิวหนังพบไม่บ่อยในเด็ก สาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด ลักษณะเป็น papule สีแดง ต่อมากลายเป็น vesicles และกลายเป็น hemorrhagic crust หายเป็นแผลเป็น ผื่นพบตามลำตัว ไม่มีอาการคัน การวินิจฉัยที่แน่นอน คือการทำ skin biopsy พบ epidermal necrosis, extravasation of RBC และ mononuclear cells ในชั้น dermis

สรุปการวินิจฉัย รอยโรคผิวหนังในการติดเชื้อ Mpox ต้องอาศัยประวัติการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย Mpox ร่วมกับการตรวจผิวหนังพบรอยโรคที่มีลักษณะจำเพาะและผลตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการวินิจฉัย ในรายที่ผื่นไม่มีลักษณะจำเพาะ จำเป็นต้องแยกจากโรคผิวหนังอื่น ๆ ที่มีอาการคล้ายกัน

 

PDPA Icon

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก