การศึกษารวบรวมข้อมูลความสัมพันธ์ของผล urine plasminogen to creatinine ratio ในผู้ป่วยโรคโกลเมอรูลัส พบว่า ค่าที่สูงคาดเดาการเกิดไตวายได้อย่างมีนัยสำคัญในทุกโรคทุกกลุ่มย่อย และทุกระยะของโรค
โรคไต glomerulus ในปัจจุบันใช้การแบ่งกลุ่ม การพยากรณ์โรคและแนวทางการรักษา โดยอ้างอิงตามสิ่งตรวจพบทางพยาธิวิทยาจากการตัดชิ้นเนื้อไต จึงเป็นข้อจำกัดของการประเมินโรค มีการศึกษาสารต่าง ๆ ในเลือดที่สัมพันธ์กับโรคไต glomerulus หนึ่งในการศึกษานั้น คือ สาร urine serine protease โดยเฉพาะการตรวจหา plasminogen หรือ plasmin ในปัสสาวะ ซึ่งสัมพันธ์กับการทำลาย podocyte และ glomerulus
การศึกษานี้เป็นข้อมูลส่วนหนึ่งของการเก็บข้อมูลโรคไตโกลเมอรูลัส ชนิดปฐมภูมิในระดับนานาชาติชื่อ CureGN โดยเก็บข้อมูลต่าง ๆ เพื่อมาวิเคราะห์สารต่าง ๆ ในเลือดแทนการตรวจชิ้นเนื้อไต สำหรับการศึกษานี้สนใจความสัมพันธ์ของ urine plasminogen creatinine ratio ว่าสัมพันธ์กับการดำเนินโรคและความรุนแรงอย่างไร
รวบรวมข้อมูลผู้ป่วย 1,010 ราย ที่มีการเก็บ urine plasminogen ในกลุ่มนี้มีผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง (ESRD) ที่ต้องฟอกเลือด 105 ราย ที่เหลือยังไม่มีไตเสื่อมเรื้อรัง (CKD) และเมื่อติดตามไป 36 เดือน มีคนที่กลายเป็นไตวายเรื้อรัง อายุเฉลี่ยทั้งสองกลุ่ม คือ 37 ปี ส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรปและอเมริกา มีโรค focal segmental glomerulonephritis, IgA nephropathy, membranous nephritis อย่างละหนึ่งในสามเท่า ๆ กัน ผู้ป่วยเกือบทั้งหมดเคยได้ยากดภูมิคุ้มกันมาแล้ว ความแตกต่างของสองกลุ่ม คือ เป็นไตวายเรื้อรังกับไม่ไม่โรคไตเสื่อมเรื้อรัง คือ ส่วนสัดส่วนโปรตีนในปัสสาวะ UPCR กลุ่มไม่มีไตเสื่อมเรื้อรังอยู่ที่ 0.7 g/g ส่วนกลุ่มไตเสื่อมเรื้อรังอยู่ที่ 2.7 g/g
ผลการศึกษา พบว่า สัดส่วน urine plasminogen to creatinine ratio (g/g) เมื่อเริ่มการศึกษากลุ่มที่ไม่มีไตเสื่อมเรื้อรังนั้นอยู่ที่ 108.1 ส่วนกลุ่มไตวายเรื้อรังอยู่ที่ 2362.8 ซึ่งแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และเมื่อคำนวณโดยใช้ค่า log2 urine plasminogen to creatinine ratio พบว่า ค่าที่สูงสัมพันธ์กับการเกิดไตวายเรื้อรังอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ HR 1.31 (95% CI 1.22 – 1.40) และความสัมพันธ์นี้เป็นจริงในทุกกลุ่มย่อยและทุกโรคของโกลเมอรูลัส คาดเดาการเกิดไตวายเรื้อรังได้ดีกว่าการใช้โปรตีนในปัสสาวะ และคาดเดาผลการเกิดไตวายเรื้อรังได้ดีโดยไม่ขึ้นกับระยะของโรค
การตรวจ urine plasminogen to creatinine ratio เป็นการตรวจที่ไม่รุกล้ำ ทำง่าย แม่นยำ ทำได้ในทุกระยะทุกโรค สามารถคาดการเกิดไตวายเรื้อรังที่ต้องฟอกเลือดได้แม่นยำ แต่ยังคงต้องศึกษาวิธีการที่จะทำให้เข้าถึงได้ง่ายและมีมาตรฐานที่ไม่แปรปรวน
เรียบเรียงโดย นพ. ชาคริต หริมพานิช
ข้อมูลจาก DOI:10.1053/j.ajkd.2024.01.520