การศึกษา พบว่า ผู้รอดชีวิตจากโรค COVID-19 ควรได้รับการตรวจสอบการทำงานของไตเป็นประจำ เนื่องจากไตมักจะได้รับความเสียหาย หรือประสิทธิภาพในการทำงานลดลงจากเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 แม้ว่าจะผ่านไปเป็นเวลานานหลายเดือน
ผู้ที่รอดชีวิตจากเชื้อไวรัสที่ก่อโรค COVID-19 จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากการที่ปอด และอวัยวะอื่น ๆ เสียหาย หรือเสื่อมประสิทธิภาพในการทำงาน โดยจะมีอาการเรื้อรังไปอีกนานกว่า 1 ปี วารสาร JASN ได้ตีพิมพ์งานวิจัยของ Benjamin Bowe และคณะ ที่ได้ประเมินผู้ป่วย COVID-19 จำนวน 89,216 ราย ที่ผลตรวจเป็นบวกระหว่างเดือนมีนาคม 2020 – มีนาคม 2021 เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ผลตรวจเป็นลบ ประมาณ 1.6 ล้านคน โดยติดตามการทำงานของไต ทั้ง AKI, eGFR decline, ESKD และ major adverse kidney events (MAKE) เป็นระยะเวลา 5.5 เดือน
การศึกษา พบว่า ผู้ป่วยที่รอดชีวิตจากโรค COVID-19 ประมาณ 1 ใน 3 มีโอกาสมากกว่ากลุ่มควบคุม ที่ไตจะเสียหาย หรือประสิทธิภาพในการทำงานของไตลดลงอย่างมีนัยสำคัญภายใน 1-6 เดือน โดยมากกว่า 4,700 คนสูญเสียการทำงานของไตไปอย่างน้อย 30% ภายในหนึ่งปี นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่รอดชีวิตยังมีโอกาสประสบกับภาวะ AKI เกือบ 2 เท่า และมีโอกาสได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น ESKD เกือบ 3 เท่า เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังไม่แน่ใจว่าโรค COVID-19 สามารถทำลายไตได้อย่างไร โดยสันนิษฐานว่าอาจมีปัจจัยหลายประการ ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญบางท่านได้กล่าวว่าไวรัสอาจติดเชื้อโดยตรงในเซลล์ไตที่อุดมไปด้วยตัวรับ ACE2 ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการติดเชื้อ
อย่างไรก็ตาม การศึกษานี้ ยังมีข้อจำกัดอยู่หลายข้อที่นักวิจัยรวมถึงผู้ใช้ข้อมูลจำเป็นต้องคำนึงถึง เช่น อายุผู้ป่วยที่สูง โดยมีค่ามัธยฐานที่ 68 ปี และส่วนใหญ่เป็นชายผิวขาว ขณะที่กลุ่มควบคุมอายุน้อยกว่า เป็นคนผิวสี มีภาวะสุขภาพเรื้อรัง และการใช้ยาที่มากกว่า
ข้อมูลจาก www.medscape.com