กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการแก่เครือข่ายเฝ้าระวังเชื้อดื้อยา เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างห้องปฏิบัติการเครือข่ายในการขยายขอบข่ายการเฝ้าระวังและควบคุมเชื้อแบคทีเรียดื้อยาต้านจุลชีพให้มีข้อมูลที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการบริหารยาต้านจุลชีพอย่างสมเหตุผล ลดโอกาสและความเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อดื้อยา
20 มีนาคม พ.ศ. 2566 นพ. บัลลังก์ อุปพงษ์ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นประธานการอบรมเชิงปฏิบัติการ “การพัฒนาสมรรถนะห้องปฏิบัติการเครือข่าย และระบบเฝ้าระวังเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพ” โดยมี ดร. นพ. อาชวินทร์ โรจนวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัย ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นักเทคนิคการแพทย์ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ เจ้าพนักงานวิทยาศาสตร์การแพทย์ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ เข้าร่วม
นพ. บัลลังก์ เผยว่า ปัญหาเชื้อดื้อยาซึ่งคร่าชีวิตผู้ป่วยราวปีละ 38,000 ราย มีความเกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วน ทั้งด้านสาธารณสุข ภาคเกษตร และสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จึงต้องแก้ปัญหาร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังเป็นวาระสำคัญตามที่องค์การอนามัยโลกประกาศ จึงมีการตั้งคณะกรรมการบูรณาการการจัดการปัญหาเชื้อดื้อยา ซึ่งดำเนินการแก้ปัญหามาอย่างต่อเนื่อง โดยกรมวิทย์ฯ ได้ดำเนินโครงการบูรณาการการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายเฝ้าระวังเชื้อดื้อยา ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2540 ปัจจุบันมีโรงพยาบาลร่วมเป็นเครือข่ายทั้งสิ้น 112 แห่งจาก 77 จังหวัด
ศูนย์เฝ้าระวังเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพแห่งชาติ (National Antimicrobial Resistance Surveillance, Thailand: NARST) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จึงมีระบบเฝ้าระวังเชื้อดื้อยาที่เป็นระบบฐานข้อมูลของประเทศ ทั้งนี้ ยังต้องพัฒนาระบบเฝ้าระวังแบบ case-finding based ร่วมด้วย ในปีนี้กรมวิทย์ฯ จึงจัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้เครือข่ายเฝ้าระวังเชื้อดื้อยาเพื่อทราบข้อมูลใหม่ ๆ ให้ทันต่อสถานการณ์ สร้างความร่วมมือระหว่างห้องปฏิบัติการเครือข่ายและกรมวิทย์ฯ ในการขยายขอบข่ายการเฝ้าระวังและควบคุมเชื้อแบคทีเรียดื้อยาต้านจุลชีพให้ตอบสนองการใช้งานทุกระดับ
แหล่งที่มา: https://www.thecoverage.info/news/content/4688