บอร์ด สปสช. อนุมัติแผนบริหารจัดสรร “งบบัตรทอง ปี 66” งบกว่า 2.04 แสนล้านบาท เพิ่ม/ขยายกลุ่มเป้าหมายและบริการ ดูแลประชาชนได้ครอบคลุมทั่วถึงยิ่งขึ้น รวมงบบริการกรณีโควิด 19 กว่า 1.35 พันล้านบาท พร้อมพัฒนาประสิทธิภาพระบบเบิกจ่ายและตรวจสอบ ช่วยลดภาระการส่งข้อมูลของหน่วยบริการ
4 ก.ค. 65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) โดยที่ประชุมได้เห็นชอบข้อเสนอหลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริการจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2566 และร่างข้อบังคับประกาศเกี่ยวข้อง ตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุน
โดยได้มีมติอนุมัติงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง ปีงบประมาณ 2566 วงเงิน 204,140.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 5,248.24 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นงบเหมาจ่ายรายหัว 161,602.66 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 3,385.98 บาทต่อประชากร จากงบที่ได้รับนี้ สปสช. นอกจากจะนำมาจัดสรรตามรายการบริการแล้ว ปีนี้ยังได้เพิ่มการสนับสนุนบริการใหม่ให้กับประชาชน รวมถึงการเพิ่มการเข้าถึงบริการ เพิ่มคุณภาพและเพิ่มประสิทธิภาพ
สำหรับการพัฒนาประสิทธิภาพระบบการจ่ายที่สนับสนุนการบริการของหน่วยบริการ ได้แก่ การบูรณาการระบบข้อมูลบริการสาธารณสุขของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อคืนข้อมูลให้กับหน่วยบริการและประชาชน การทำระบบเชื่อมข้อมูลบริการเพื่อลดภาระการส่งข้อมูลของหน่วยบริการ การเพิ่มประสิทธิภาพตรวจสอบการจ่าย ได้แก่ การพิสูจน์ตัวตน ระบบตรวจก่อนจ่าย เน้นการใช้ AI Audit เน้นบริการจ่ายตามผลงานทุกรายการ เป็นต้น
อีกทั้งจัดทำกลไกทบทวนอัตราจ่ายตามรายการบริการ โดยมีคณะทำงานทบทวน การปรับระบบขยายบริการข้ามเขตและการจัดทำระบบการให้บริการมากกว่า 1 หน่วยบริการ อย่างกรณีนวัตกรรมย่านโยธี นอกจากนี้ในปี 2566 นี้ ยังได้เพิ่มบทบาท อปสข. ร่วมให้คำแนะนำ/ความเห็นต่อหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายค่าบริการ เพื่อให้เป็นไปตามบริบทซึ่งเป็นปัญหาในพื้นที่
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand
ข้อมูลจาก: https://www.hfocus.org/content/2022/07/25442