กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ขับเคลื่อนมาตรการเพิ่มความครอบคลุมของวัคซีนในเด็กและประชากรกลุ่มเสี่ยงทั่วประเทศ เน้นวัคซีนป้องกันโรคหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม (MMR) และวัคซีนไอกรน สานต่อนโยบายวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) เข็มที่ 2 และเริ่มใช้วัคซีน HPV 9 สายพันธุ์ในเด็กนักเรียนหญิง พร้อมทั้งกำชับมาตรการเฝ้าระวังโรคติดต่อสำคัญ เช่น ไข้หวัดนก ไข้หวัดใหญ่ และโควิด 19 ช่วงเทศกาลปีใหม่
9 ธันวาคม พ.ศ. 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติเผยว่าที่ประชุมเห็นชอบแนวทางเพิ่มความครอบคลุมวัคซีนในเด็กเล็กที่เข้าถึงบริการได้น้อย รวมถึงวัคซีนไอกรนสำหรับเด็กและหญิงตั้งครรภ์ และขยายบริการวัคซีน HPV 9 สายพันธุ์ในเด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.5 ตั้งแต่เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2568 โดยเริ่มกิจกรรม Kick-off ครั้งแรกในวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2567 ที่จังหวัดปทุมธานี
ที่ประชุมยังได้หารือเกี่ยวกับการเฝ้าระวังโรคติดต่อสำคัญ อาทิ โรคไข้หวัดนกที่ยังพบผู้ป่วยในประเทศเพื่อนบ้าน ไข้หวัดใหญ่ที่มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในโรงเรียนและสถานดูแลผู้สูงอายุ และโควิด 19 ซึ่งจำนวนผู้ป่วยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี โดย สธ. ยังเน้นย้ำการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล อาทิ การล้างมือและสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในช่วงเทศกาลปีใหม่
แหล่งที่มา: https://pr.moph.go.th//online/index/news/308410