ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย
สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย
4 กุมภาพันธ์ 2568
“มะเร็งปากมดลูกและมะเร็งอีกหลายชนิด ป้องกันได้ด้วยวัคซีนเอชพีวี ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง และปลอดภัย”
วัคซีนเอชพีวี เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งอวัยวะเพศ มะเร็งในช่องปากและลำคอ รวมทั้งหูดหงอนไก่ ได้เกือบทั้งหมด และเป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัยสูง องค์การอนามัยโลกจึงให้คำแนะนำให้ทุกประเทศทั่วโลก จัดสรรวัคซีนนี้ให้วัยรุ่นในประเทศของตนอย่างทั่วถึง จากข้อมูลการใช้วัคซีนทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีการฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า 600 ล้านโดส และได้มีการเฝ้าระวังผ่านระบบรายงานผลข้างเคียงของวัคซีน ในหลายประเทศ พบว่า ผลข้างเคียงที่พบส่วนใหญ่เป็นอาการเล็กน้อย เช่น ปวด บวม หรือผื่นแดงบริเวณที่ฉีด และอาการแพ้รุนแรงพบได้น้อยมาก (ประมาณ 1.7 รายต่อการฉีดวัคซีน 1 ล้านโดส) องค์การอนามัยโลกได้ยืนยันความปลอดภัยของวัคซีนนี้โดยการตีพิมพ์ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 20171 และมีการศึกษายืนยันได้ว่า วัคซีนไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดอาการต่าง ๆ ที่มีการพูดถึง เช่น ภาวะหัวใจเต้นเร็วเมื่อเปลี่ยนท่า (orthostatic tachycardia syndrome) ภาวะอ่อนล้าเรื้อรัง (chronic fatigue syndrome) ภาวะเจ็บปวดเฉพาะที่ (complex regional pain syndrome)2 ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้ง อเมริกา ยุโรปและออสเตรเลีย ได้มีการแนะนำให้ใช้วัคซีนเอชพีวี ในวงกว้าง
สำหรับประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขได้จัดสรรให้มีการฉีดวัคซีนเอชพีวี สำหรับเด็กนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2560 และมีการขยายการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนทั่วไปถึงอายุ 20 ปี เพื่อป้องกันมะเร็งที่เกิดจากเชื้อเอชพีวีจนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลากว่า 7 ปี โดยมีการติดตามข้อมูลด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง และยังไม่พบรายงานผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการฉีดวัคซีนเอชพีวีในประเทศไทย
ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวการฟ้องร้อง บริษัทผู้ผลิตวัคซีนเอชพีวี ในประเทศสหรัฐอเมริกา3 มีผู้นำข่าวมาเขียนเผยแพร่ทางโซเชียล ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อน มีความกังวลและหวาดกลัวการฉีดวัคซีนเอชพีวี และอาจส่งผลให้ปฏิเสธการรับวัคซีนที่มีประโยชน์นี้
ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย ขอยืนยันในความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน แนะนำให้ประชาชนรับวัคซีนป้องกันเอชพีวีต่อไป
คำถามที่พบบ่อย
- ควรให้บุตรหลานฉีดวัคซีนเอชพีวี ต่อไปหรือไม่
ตอบ แนะนำให้มีการฉีดอย่างครอบคลุมตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขและสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย เพื่อให้คนไทยปลอดภัยจากโรคและมะเร็งหลายชนิดที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อ เอชพีวี - หากเคยฉีดวัคซีนเอชพีวีมาแล้วหนึ่งเข็ม ควรฉีดต่อหรือไม่
ตอบ ควรฉีดต่อให้ครบตามกำหนด - การให้วัคซีนเอชพีวีที่โรงเรียน มีความปลอดภัยหรือไม่
ตอบ มีความปลอดภัย โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขไปฉีดให้ พร้อมมาตรการเฝ้าระวังและการดูแลรักษาในกรณีที่อาจเกิดอาการแพ้หรืออาการข้างเคียง - ถ้าฉีดวัคซีนเอชพีวีไปแล้ว เกิดมีอาการใจสั่น ควรทำอย่างไร
ตอบ ให้นั่งหรือนอนพักหลังฉีด ส่วนใหญ่อาจเป็นปฏิกิริยาของร่างกายที่ตอบสนองความเครียดจากการฉีดวัคซีน เนื่องจากการฉีดวัคซีนอาจมีความเจ็บปวดได้
- https://www.who.int/groups/global-advisory-committee-on-vaccine-safety/topics/human-papillomavirus-vaccines/safety
- https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC6518966/
- https://www.lawsuit-information-center.com/gardasil-hpv-vaccine-lawsuit.html
ขอขอบคุณ : ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย สมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย