โทรศัพท์ smartphone สามารถรายงานสัญญาณสมอง frontotemporal lobar degeneration (FLTD) ได้
การเสื่อมของสมองส่วน Frontotemporal หรือ Frontotemporal lobar degeneration (FLTD) ค่อนข้างพบได้ยาก แต่การเกิดอาการเกี่ยวกับพฤติกรรมและการควบคุมกล้ามเนื้อนั้น ทำให้เกิดผลกระทบที่ตามมา และการตรวจระบบประสาท สมอง และจิตใจตามมาตรฐานนั้น ไม่สามารถวินิจฉัยภาวะนี้ได้อย่างรวดเร็ว การใช้โทรศัพท์ smartphone ช่วยในการประเมินความสามารถของสมองจากทางไกล จะสามารถช่วยให้แพทย์วินิจฉัยภาวะสมองเสื่อมชนิดนี้ได้รวดเร็วและง่ายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ก่อนนำไปใช้งานต้องมีการ validation ก่อน จึงเป็นที่มาของงานวิจัยนี้
Adam M. Staffaroni และคณะ จากสหรัฐอเมริกา ได้ทำการตรวจสอบการใช้ smartphone application ในการวินิจฉัยภาวะ FTLD โดยจะมีการประเมินความสามารถในการตัดสินใจ (executive functioning task) และความทรงจำที่อยู่ในลักษณะความสัมพันธ์ (associative memory task) จำนวน 3 ครั้ง ในช่วงเวลานานกว่า 2 สัปดาห์ ในผู้เข้าร่วมงานวิจัยจาก 18 ศูนย์ จาก a North American FTLD research consortium ซึ่งผู้เข้าร่วมงานวิจัยจะถูกติดตามให้ทำแบบประเมินดังกล่าวผ่าน smartphone ของตนเอง ผู้เข้าร่วมงานวิจัยจำนวนจะถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม discovery (258 ราย) และกลุ่ม validation (102 ราย) โดยผู้เข้าร่วมงานวิจัย 195 ราย หรือ 59.3% ซึ่งไม่มีอาการนั้นเริ่มมีภาวะ preclinical FTLD มีจำนวน 66 ราย หรือ 20.1% เป็น FTLD ระยะ prodromal และ 68 ราย หรือ 20.7% เป็น FTLD ระยะที่มีอาการ ผู้เข้าร่วมงานวิจัยทั้งหมดจะได้รับการตรวจตามมาตรฐานปกติ และได้รับการตรวจด้วย smartphone application ผลพบการใช้ smartphone application มีความน่าเชื่อถือในการตรวจวินิจฉัยภาวะ FTLD ในระดับปานกลางถึงดีมาก โดยมี intraclass correlation coefficients 0.77 – 0.95 ส่วน validity ขึ้นกับระยะของโรค r 0.38 – 0.59 ในขณะที่การตรวจตามมาตรฐานมี r 0.40 – 0.60 การใช้ smartphone test สามารถแยกกลุ่มควบคุมออกจากผู้เป็นโรคสมองเสื่อมได้อย่างถูกต้อง และไวกว่าการใช้ the Montreal Cognitive Assessment อีกด้วย
การศึกษาแสดงให้เห็นว่า smartphone test ใช้งานได้ง่าย เชื่อถือได้ แปลผลได้ถูกต้อง และสามารถทำให้เข้าถึงการตรวจได้ง่ายขึ้น การทำวิจัยในอนาคตอาจสามารถขยายการตรวจสอบ smartphone test ไปในกลุ่มประชากรที่หลากหลายพร้อมนำไปใช้งานได้มากขึ้น
เรียบเรียงโดย พญ. นิษฐา ปรุงวิทยา
ข้อมูลจาก https://jamanetwork.com/journals/jamanetworkopen/fullarticle/2816782

